“สมคิด”นำทีมเยือนสปป.ลาว ชงผลักดันซีแอลเอ็มวี-ชวนธุรกิจจดทะเบียนตลาดหุ้นไทย

“สมคิด”ยกคณะใหญ่เยือนลาว เสนอทำยุทธศาสตร์ร่วม ผลักดันซีแอลเอ็มวีที นายกฯลาวขานรับ ขอสองเรื่องใหญ่อย่าให้รถไฟความเร็วสูงเป็นเส้นทางกุดแค่เวียงจันทน์ ชงไทยซื้อไฟฟ้าเพิ่ม

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 24 พฤษภาคม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นำคณะตัวแทนฝ่ายไทยทั้งจากภาคราชการและเอกชน เข้าพบหารือเรื่องความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

นายทองลุน เปิดเผยว่าลาวเป็นประเทศที่ไม่มีทั้งทางออกทะเล และไม่มีทางรถไฟ แต่ขณะนี้มีโครงการรถไฟความเร็วสูงลาว-จีนจากมณฑลยูนนานมายังนครเวียงจันทน์ ที่จะก่อสร้างเสร็จในพ.ศ.2564 จึงไม่อยากให้รถไฟความเร็วสูงเป็นเส้นทางกุดอยู่แค่ลาว และเขื่อว่าโดยศักยภาพของไทย สามารถลงมือก่อสร้างทางจนเสร็จมาเชื่อมกันได้ในระยะเวลา 5 ปีนี้ ลาวมีแผนจะก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงอีกหลายแห่ง ทั้งเชื่อมระหว่างประเทศลาว-ไทย เช่นสะพานปากซัน-บึงกาฬ และในประเทศเอง เช่น ที่หลวงพระบางและปากเซ ทั้งเพื่อเพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และขยายการท่องเที่ยวให้มากขึ้น ทั้งนี้อยากให้ทั้งสองประเทศร่วมมือกันในเรื่องการพัฒนาการท่องเที่ยวและการค้าชายแดนมากขึ้นกว่านี้ รวมทั้งต้องการให้ไทยช่วยยกระดับการพัฒนาสินค้าชุมชลแบบเดียวกับโอท็อปที่ประสบความสำเร็จในไทย ทั้งนี้ลาวมีนโยบายที่จะเป็นแบตเตอรี่ในภูมิภาค ด้วยการผลิตไฟฟ้าขายให้แก่เพื่อนบ้าน ทั้งไทย เวียดนาม และกัมพูชา ทั้งนี้อยากจะให้ฝ่ายไทยเพิ่มการรับซื้อไฟฟ้าจากบาวเป็นปีละ 9,000 เมกะวัตต์ และเพิ่มราคาในการรับซื้อ เพราะต้นทุนในการผลิตไฟฟ้านั้นเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
“เราหวังว่าความร่วมมือของทั้งสองประเทศจะก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป โดยเฉพาะทางฝ่ายลาวนั้นจะดำเนินนโยบาย 3 เปิด คือเปิดประตู เปิดสิ่งกีดขวาง และเปิดใจ”นายทองลุนกล่าว

Advertisement

ด้านนายสมคิดกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีลาวที่เดินทางไปในพิธีถวายความเคารพพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ส่วนเรื่องต่างๆที่นายกรัฐมนตรีลาวฝากมานั้นไม่ต้องเป็นกังวล อาทิ ทางรถไฟความเร็วสูงไม่กุดแน่นอน แต่ใครทำให้ช้า คนนั้นจะกุด ตรงนี้พล.อ.ประยุทธ์เอาจริงแน่นอน หรือการเพิ่มการค้าระหว่างกันนั้น หากมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายไทยมีพฤติกรรมไม่ดีหรือวาจาไม่สุภาพ หรือทำตัวให้การติดต่อระหว่างกันเสียหาย ขอให้ฝ่ายลาวแจ้งทางไทยให้จัดการทันที ซึ่งนายกรัฐมนตรีลาวก็กล่าวรับสนองในทำนองเดียวกัน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้น อยากให้ทั้งสองประเทศมีแผนยุทธศาสตร์ร่วม(Master Plan) ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้า อุตสาหกรรม หรือการลงทุน เพื่อเป็นจุดตั้งค้นในการพัฒนา CLMVT หรือกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม และไทย ภายใต้กรอบของเออีซี

“เราเป็นประเทศเล็กๆในโลก ไม่มีใครมาช่วยดูแล เพราะฉะนั้นเราต้องดูแลกันเอง ประคับประคองกัน สร้างความเข้มแข็งให้กันและกัน เพื่อสร้างอำนาจต่อรอง เริ่มจากสองประเทศแล้วก็ค่อยขยายออกไปในซีแอลเอ็มวีที ถ้าทำได้แม้แต่จีนหรือมหาอำนาจอื่นๆก็จะให้ความสำคัญ”นายสมคิดกล่าว

นายทองลุนกล่าวเพิ่มเติมว่าเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว จึงอยากจะให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมผู้นำประเทศซีแอลเอ็มวีทีทั้ง 5 ประเทศ ซึ่งนายสมคิดรับว่าจะนำเรื่องแจ้งให้พล.อ.ประยุทธ์รับทราบต่อไป

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสมคิด รองนายกรัฐมนตรียังกล่าวเชิญชวนให้ธุรกิจลาว โดยเฉพาะธุรกิจด้านพลังงานที่เป็นธุรกิจหลักในประเทศ รวมทั้งรัฐวิสาหกิจของลาว เข้าไปจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย เพื่อระดมทุนมาพัฒนาเศรษฐกิจ โดยอาจจะจดทะเบียนคู่ขนานทั้งในตลาดไทยและตลาดหลักทรัพย์ลาว จนกระทั่งเมื่อธุรกิจแข็งแรงแล้วก็อาจจะถอนจากตลาดหลักทรัพย์ไทยได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image