ระวัง! อดนอนยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงตายด้วยโรคหัวใจ

inquirer.net

การนอนหลับไม่เพียงพอสามารถเพิ่มโอกาสเสี่ยงให้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจหรือการอุดตันของเส้นเลือดไปเลี้ยงสมองได้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีปัจจัยเสี่ยงอยู่แล้ว อย่างการเป็นเบาหวาน โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง และคอเลสเตอรอลในร่างกายสูง

ความเสี่ยงข้างต้นเป็นสิ่งที่ทีมนักวิจัยชาวอเมริกันค้นพบระหว่างการศึกษาวิจัย และได้เปิดเผยไว้ในวารสารของสมาคมโรคหัวใจอเมริกัน เผยแพร่เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเป็นการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ใหญ่จำนวน 1,344 คน ที่สุ่มเลือกมาเพื่อการศึกษาเรื่องการนอนหลับในรัฐเพนซิลวาเนีย โดยกลุ่มตัวอย่างที่เข้าร่วมมีอายุเฉลี่ยที่ 49 ปี และเป็นผู้ชายร้อยละ 42 ซึ่งต้องผ่านการตรวจคัดโรคและนอนหลับอยู่ในห้องทดลองเป็นเวลา 1 คืน ในกลุ่มตัวอย่างนี้ กว่าร้อยละ 39 ยังถูกพบว่า มีอย่างน้อยกว่า 3 ปัจจัยเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ ซึ่งเมื่อมาอยู่รวมกันถูกเรียกว่ากลุ่มอาการเมตาบอลิสม์ นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างยังมีค่าดัชนีมวลกาย (บีเอ็มไอ) สูงกว่า 30 ซึ่งเป็นระดับที่มีคอเลสเตอรอล ความดันเลือด น้ำตาลในเลือด และไตรกลีเซอไรด์สูง ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างจะถูกติดตามดูอาการเป็นเวลาเฉลี่ย 16 ปี โดยมีร้อยละ 22 ในจำนวนนี้ที่เสียชีวิตลงในระหว่างที่มีการทำการศึกษา

จากการศึกษา พบว่าผู้ที่อยู่ในกลุ่มอาการเมตาบอลิสม์ซึ่งนอนหลับไม่ถึง 6 ชั่วโมง มีโอกาสที่จะเสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจหรือการอุดตันของเส้นเลือดไปเลี้ยงสมองสูงถึง 2.1 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ ขณะที่ผู้ที่นอนน้อยและมีกลุ่มอาการเมตาบอลิสม์ ยังมีโอกาส 1.99 เท่าที่จะเสียชีวิตจากโรคใดๆ ก็ได้เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่มีอาการเมตาบอลิสม์

ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่มีความเสี่ยงสูงและได้นอนพักผ่อนมากกว่า 6 ชั่วโมง มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่มีสุขภาพดี 1.49 เท่า

Advertisement

จูลิโอ เฟอร์นันเดซ เมนโดซา รองศาสตราจารย์แห่งวิทยาลัยการแพทย์เพนน์สเตท บอกว่า หากมีปัจจัยเสี่ยงเป็นโรคหัวใจหลายด้านอยู่แล้ว ก็ควรจะดูแลเรื่องการนอนพักผ่อนของตนเองให้ดีและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหากมีปัญหา เพราะการนอนหลับถือเป็นสิ่งสำคัญ หากต้องการลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจ ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำว่า ในวัยผู้ใหญ่ควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อสุขภาพที่ดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image