เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 พฤษภาคม 2560 นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยนางอัญญาณี เพ็งจันทร์ นายกเหล่ากาชาดปัตตานี พร้อมคณะส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปยัง อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี หลังนายโอฬาร บิลสัน นายอำเภอยะรัง แจ้งข้อมูลพบหญิงชราอายุยืน 131 ปี ยังคงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง อาศัยอยู่กับลูกสาวและหลานๆ โดยได้ทำการตรวจสอบข้อมูลประวัติเบื้องต้นว่ามีการแจ้งเกิดอย่างถูกต้อง ไม่มีข้อผิดพลาด สามารถยืนยันอายุได้ตรงความจริง จึงได้แจ้งข้อมูลไปยังนายวีรนันทน์ ผู้ว่าฯ
จากนั้นได้ลงพื้นที่นำคณะอนุกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมด้านผู้สูงอายุ หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงเยี่ยมให้กำลังใจและมอบกระเช้าสุขภาพ ถุงยังชีพ ผ้าห่มช่วยเหลือ รวมถึงการมอบเกียรติบัตรแสดงการยืนยันให้กับผู้มีอายุยืนมากกว่า 100 ปี
นางสือเมาะ แวยะโก๊ะ อายุ 65 ปี บุตรสาวคนสุดท้อง กล่าวว่า แม่มีบุตรทั้งหมด 7 คน เสียชีวิตไปแล้ว 4 คนมีหลาน-เหลน 27 คน ส่วนพ่อได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ตัวเองยังเด็กๆ และตั้งแต่เด็กๆ จำได้ว่าแม่ชอบกินข้าวกับปลาและผักทุกชนิด น้ำก็กินแต่ที่ร้อนๆ ไม่กินเนื้อไก่หรือเนื้อวัว ตอนสาวๆ ก็ทำนาทำไร่เหมือนคนทั่วไปในหมู่บ้าน พออายุมากขึ้นก็หันมาช่วยเป็นครูสอนอัลกุรอานให้กับเด็กๆ ในหมู่บ้าน
นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผวจ.ปัตตานี กล่าวว่า วันนี้ได้ลงมาเยี่ยมและสอบถามความเป็นอยู่ของทวดแวบีเดาะว่าทำอย่างไรถึงได้อายุยืนยาวถึง 131 ปี โดยได้ถามว่าทำอย่างไร เพราะลูกสาวคนสุดท้องอายุ 65 ปี และมีลูกสะใภ้อายุ 71 ปี แต่ทวดยังดูสาวพอๆ กัน ซึ่งก็ได้คำตอบว่า การใช้ชีวิตนั้นอยู่กินกับสิ่งที่เป็นธรรมชาติ ไม่กินเนื้อสัตว์ 2 เท้า กินแต่เนื้อปลากับผักที่มีอยู่ตามริมรั้วและกินแต่น้ำอุ่น-น้ำร้อน ตรงนี้ก็ทำให้ทราบถึงการกินอยู่ที่มีความสำคัญ อีกอย่างคือ การเป็นอยู่ด้านจิตใจที่สงบ เพราะทวดยึดหลักการใช้ชีวิตกับหลักปฏิบัติตามคำสอนของศาสนา จึงทำให้มีชีวิตจิตใจอันสงบสุข ที่สำคัญ บุคคลใดที่อยู่ในศาสนาแล้วจิตใจสงบอย่างแท้จริงก็จะได้รับพรอันสูงสุดจากพระผู้เป็นเจ้า ช่วยให้ทวดมีอายุที่ยืนยาวและมีสุขภาพที่แข็งแรง
นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผวจ.ปัตตานี กล่าวว่า ตรงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ และเป็นมิ่งขวัญให้ชาวปัตตานีได้เรียนรู้ศึกษาว่าควรใช้ชีวิตอย่างไร หลังจากนี้จะได้ให้นายอำเภอยะรังช่วยตรวจสอบประวัติกับสำนักทะเบียนอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุยืนยาวที่สุดในประเทศไทยหรือไม่ แต่ที่ว่าอายุยืนยาวที่สุดในโลกนั้นส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประเทศจีนหรือประเทศญี่ปุ่น แต่ในส่วนของเรานี้ สิ่งต่างๆ นั้นเป็นเพียงแค่ภาพ จึงอยากให้มองถึงจุดสำคัญว่าเราสามารถใช้บทเรียนชีวิตของทวดมาเป็นบทเรียนทั้งเรื่องอาหารการกิน บทเรียนในเรื่องการทำจิตใจให้อยู่กับศีลกับธรรมให้เกิดความสงบ รวมถึงการทำประโยชน์ต่างๆ ให้กับสังคม เพราะทวดเองได้เคยทำหน้าที่สอนอัลกุรอานให้กับชาวบ้านมากว่า 80 ปี โดยหลังจากนี้ทางจังหวัดจะได้ดำเนินโครงการ 1 ใน 12 วาระคือ การช่วยเหลือดูแลเด็กกำพร้า ผู้ชรา หรือผู้ยากไร้ ร่วมกับท้องที่ท้องถิ่น และยังเป็นหน้าที่สำคัญของทุกคนในการจะเอื้ออาทร ดูแลกันและกัน ช่วยกันนำพาทำแต่สิ่งดีๆ เพื่อให้มีความสงบร่มเย็น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังการเดินทางไปเยี่ยมและมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้กับทวดแวบีเดาะ อายุ 131 ปี ขณะคณะจะขอตัวกลับนั้น ทวดแวบีเดาะได้กล่าวคำอวยพรเป็นภาษามลายูท้องถิ่นว่า ดีใจที่ลูกๆ หลานๆ มาเยี่ยม ขอให้ทุกคนมีความสุข มีความปลอดภัย และขอให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน จากนั้นทวดแวบีเดาะได้ขอดุอาร์ ขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าให้กับทุกๆ คน
สำหรับนางแวบีเดาะ ตรวจสอบหลักฐานจากระบบทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชน สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง มีการแจ้งขอย้ายชื่อเข้ามาอาศัยยังบ้านเลขที่ 38 หมู่ 3 ตำบลตันหยงลุโล๊ะ อำเภอเมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2518 และไม่เคยย้ายชื่อออกไปไหนอีกเลย โดยทะเบียนบ้านไม่ระบุวันและเดือนที่เกิด แต่ระบุเพียงปีเกิดคือปี 2429 ปัจจุบันอายุ 131 ปี จัดอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังช่วยเหลือตัวเองได้ โดยความชราเบื้องต้นทำให้สายตามองไม่ชัดเจน ส่วนหูยังได้ยินปกติ และยังคงสามารถสื่อสารได้อย่างปกติ