ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี ถือเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมของไทยมายาวนานตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า หากมีการติดอาวุธทางความคิดให้แก่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจเหล่านั้น ย่อมก่อให้เกิดการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทางการค้าของประเทศให้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ด้วยเหตุนี้เอง สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. ซึ่งมีบทบาทในการเสริมสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมให้มีศักยภาพการแข่งขันในระดับสากล จึงได้จับมือกับ หอการค้าไทย จัด “โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งสำหรับผู้ประกอบการใหม่ ประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” โดยมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 100 คน
วชิระ แก้วกอ รักษาการผู้อำนวยการกลุ่มงานและผู้อำนวยการฝ่ายประสานเครือข่ายผู้ให้บริการ SMEs สสว. กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือระหว่างหอการค้า กับ สสว. ที่ได้จัดโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ พร้อมเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 ที่เกิดขึ้นแล้วในภาคตะวันออกและภาคใต้ วันนี้ได้มีการเดินหน้าความร่วมมือสู่กิจกรรมที่มีเป้าหมายในการพัฒนาและฟื้นฟูผู้ประกอบการรายย่อยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โดยเฉพาะ จ.อุดรธานี บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร และ ยโสธร ซึ่งเป็นพื้นที่ทางการค้าสำคัญในภาคอีสานที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจทั้งในแง่ของการส่งออก การท่องเที่ยว และการเกษตร
ล่าสุดจากการที่ สสว. ตระหนักถึงความสำคัญในการสนับสนุนผู้ประกอบการให้ครอบคลุมในแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศ สสว. จึงจัด “โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งสำหรับผู้ประกอบการใหม่” ขึ้นใน จ.อุดรธานี ซึ่งเปรียบเสมือนศูนย์กลางเชื่อมโยงจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าด้วยกัน โดยได้ประสานความร่วมมือกับ หอการค้าไทย และ หอการค้าจังหวัด ซึ่งมีบทบาทเป็นตัวกลางในการพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการให้เข้าสู่ยุค 4.0 ตามนโยบายของรัฐบาล
ภายในงาน ประกอบด้วยกิจกรรม Workshop โดยผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการศึกษา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งประกอบด้วยหัวข้อ การเปิดกว้างสู่แนวคิดใหม่และการสร้างการเปลี่ยนแปลงสู่ไทยแลนด์ 4.0 ที่ครอบคลุมการจับกระแสความเปลี่ยนแปลงของไทยสู่การใช้นวัตกรรมเป็นเครื่องมือในการสร้างมูลค่าทางการตลาดให้มีประสิทธิภาพและการดำเนินธุรกิจด้วยโซเชียลมาร์เก็ตติ้ง ภายใต้หัวข้อการเพิ่มความรอบรู้เพื่อก้าวสู่สากล ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นเวลา 4 วัน เพื่อเสริมพื้นฐานและต่อยอดความรู้แก่ผู้ประกอบการในทุกองค์กรประกอบธุรกิจ
นอกจากกิจกรรมหลักที่จัดขึ้นเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจแล้ว ผอ.ฝ่ายประสานเครือข่ายผู้ให้บริการ SMEs สสว. และคณะยังเดินทางไปเยี่ยมชมและให้คำแนะนำผู้ประกอบการขนาดย่อมใน จ.อุดรธานี และพื้นที่ใกล้เคียงที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ เช่น วสันต์ อินทะปัญญา เจ้าของ มหาไชยฟู้ดส์ บริษัทผู้ผลิตซอสพริก น้ำส้มสายชู และน้ำปลา ที่ต้องการขยายฐานการผลิตเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าให้กว้างขวางขึ้น ศิริกานต์ ธาตุมณี เจ้าของ ดินปลูกนานาพันธุ์ไม้ ที่มีความต้องการเพิ่มกำลังการผลิตและขยายระบบโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป็นต้น
นอกจากนี้ สสว. ยังได้ดำเนินการติดตามผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ Start Up ในปี 2559 ใน จ.สกลนคร ที่ล่าสุดสามารถปั้นผลิตภัณฑ์จากผลผลิตท้องถิ่นให้กลายเป็นสินค้าที่น่าสนใจหลายรายการ ที่น่าสนใจคือ ผลิตภัณฑ์จากการแปรรูปมะเม่า ผลไม้พื้นบ้านที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ได้รับการต่อยอดมาเป็นสินค้านานาชนิด อาทิ ขนมเบเกอรี่ น้ำผลไม้ และไวน์ ฯลฯ
โครงการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเดินหน้าพัฒนา เอสเอ็มอี ท้องถิ่นให้กลายเป็นผู้ประกอบการคุณภาพ โดย สสว. ยังมุ่งมั่นสืบสานกิจกรรมดีๆ นี้อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่สนใจเข้าร่วมเป็นโครงการสามารถติดตามข่าวสารได้ทาง www.sme.go.th หรือ สสว. Call center โทร.1301 ในเวลา 08.00 – 17.00 น. (เว้นวันหยุดราชการ)