| ผู้เขียน | สุรีย์ประภา |
|---|
Alien: Covenant อีกหนึ่งจุดเชื่อมต่อของจักรวาลเอเลี่ยน
จริงเท็จไม่รู้นะ ว่ากันว่า Prometheus (2012) หนังภาคต้นกำเนิดของ Alien (1979) ที่ริดลีย์ สกอตต์กำกับ เป็นหนังที่สกอตต์สร้างขึ้นมาเพราะไม่ค่อยแฮปปี้กับหนัง Alien ภาคต่อ 2-3-4 (Aliens, Alien 3, และ Alien Resurrection) ที่ผู้กำกับใหม่เปลี่ยนสภาพการเกิดของเอเลี่ยนไปจากแนวคิดเดิมที่เขากำหนดไว้
Prometheus จึงเกิดขึ้นเหมือนจะบอกว่า แท้จริงเอเลี่ยนสุดสยองที่ผู้ชมรู้จักในนาม ซีโนมอร์ฟ (Xenomorph) มาจากไหน
แต่หนัง Prometheus ก็ค่อนข้างคลุมเครือ ตั้งคำถามเชิงปรัชญา และทิ้งปมปริศนาไว้ให้ผู้ชมถกเถียง ไม่ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับเอเลี่ยน ซ้ำฉีกแนวจากหนัง Alien (1979) ที่ริดลีย์ สกอตต์เคยกำกับในภาคแรก ไปเป็นหนังกึ่งปรัชญาในบรรยากาศหลอนๆ ไม่ใช่หนังไซไฟ-ทริลเลอร์แบบ Alien ภาคแรก
ปี 2017 Alien: Covenant ที่สกอตต์กำกับ จึงกลับมาอีกครั้ง เพื่อเติมเต็มเรื่องราวและตอบคำถามที่ค้างคาใจผู้ชม
สกอตต์กล่าวว่า “การเดินทางครั้งนี้จะพาเหล่าลูกเรือไปสู่ดาวเคราะห์ที่ Engineer จากมา และผจญภัยกับสัตว์ประหลาดที่พวกเขาสร้างขึ้น มันเป็นส่วนผสมของสิ่งมีชีวิตและเครื่องจักร มันถูกสร้างให้เป็นอาวุธ และหนังก็จะอธิบายถึงจุดนั้น พร้อมกับไปเชื่อมโยงกับเอเลี่ยนนั่นเอง”
หนังเล่าถึงการผจญภัยของลูกเรือยานโคเวเนนท์ ที่มากันเป็นคู่ๆ พร้อมกับชาวอาณานิคมราวสองพันคน เดินทางเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตบนดาวดวงใหม่
ยานควบคุมโดย วอลเตอร์ (ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์) แอนดรอยด์รุ่นใหม่ที่มีรูปโฉมเดียวกับเดวิด (ตัวละครเดิมจาก Prometheus) แต่มีอารมณ์และความนึกคิดที่เป็นมนุษย์น้อยกว่า ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้วอลเตอร์ต้องปลุกลูกเรือในยานขึ้นจากภาวะไฮเปอร์สลีป
คณะสำรวจได้ยินรหัสสัญญาณจากดาวเคราะห์ ที่คอมพิวเตอร์วิเคราะห์ว่าเหมาะสมสำหรับการดำรงชีพ กัปตันจึงตัดสินใจลงสำรวจ แม้แดเนียล (แคเธอรีน วอเตอร์สตัน) หนึ่งในทีมจะไม่เห็นด้วย
บรรยากาศช่วงแรกเหมือนเป็นสรวงสวรรค์ แต่ภารกิจสร้างอาณานิคมใหม่กลับกลายเป็นการดิ้นรนเอาชีวิตรอด เมื่อต้องเผชิญกับสิ่งมีชีวิตโหดร้ายเหนือจินตนาการ ที่พร้อมจะฉีกกระชากร่างพวกเขา
มนุษย์สังเคราะห์ เดวิด (ไมเคิล ฟาสเบนเนอร์) ที่รอดชีวิตจากยาน Prometheus โผล่มาช่วย แต่ก็น่าเคลือบแคลงว่า จุดประสงค์ที่แท้จริงของเดวิดคืออะไร
Alien: Covenant ขยายจักรวาลของเอเลี่ยนออกไปอย่างน่าสนใจ ริดนีย์ สกอตต์ ขนเอเลี่ยนในตำนานมาทั้งหมด ทั้งไข่เอเลี่ยน เอเลี่ยนเกาะหน้า (Facehugger) ที่มีงวงยาวคล้ายแมงมุมสำหรับเกาะหน้าเหยื่อ เอเลี่ยนแหวกอก (Chestbuster) ที่ทะลวงอกออกมาจากตัวมนุษย์ และซีโนมอร์ฟ เอเลี่ยนโตเต็มวัยสุดโหดที่มีเลือดเป็นกรด แถมด้วยเอเลี่ยนตัวใหม่ นีโอมอร์ฟ เอเลี่ยนวัยละอ่อนตัวสีขาวที่โหดเหี้ยมชวนสยอง
สกอตต์ยังคงให้ผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในการต่อกรกับซีโมนอร์ฟ ผู้รับบทเด่นนี้คือ แดเนียล หญิงฉลาด มาดเท่ ไหวพริบดี ที่โดดเด่นขึ้นมาเพราะสถานการณ์บังคับ แม้จะลุ้นเอาใจช่วยให้เธอรอดชีวิต แต่บทบาทของเธอยังไม่ชวนให้ประทับใจเท่าริฟลีย์ที่แสดงโดย ซิกอร์นีย์ วีเวอร์ ใน Alien ทั้งสี่ภาค
ดาราที่แสดงได้อย่างสมศักดิ์ศรีผู้มีชื่อเคยชิงรางวัลออสการ์ ได้แก่ ไมเคิล ฟาสเบนเนอร์ แสดงสองบทบาทเป็น วอลเตอร์ หุ่นยนต์สังเคราะห์ที่คอยช่วยเหลือนางเอก และเดวิด ผู้เจ้าเล่ห์ เย่อหยิ่งในความเป็นอมตะ จนเปลี่ยนสถานภาพตัวเอง จากการรับใช้มนุษย์มาเป็นพระเจ้าที่คิดสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้นมา
สกอตต์วางแผนจะสร้างภาคต่อของ Prometheus ขึ้นมาอีกหลายภาค เพื่อเชื่อมต่อจักรวาลของ Prometheus และ Alien เข้าด้วยกัน
ซึ่งก็คงต้องดูว่าเสียงตอบรับของผู้ชม Alien: Covenant เป็นเช่นไร จะสามารถกวาดรายได้ทั่วโลกมากกว่าสถิติ 400 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ที่ Prometheus ทำไว้ได้หรือไม่
