สั่งอายัดสนามบินเอกชนสร้างตัดภูเขา 150 ไร่บนเกาะพะงัน ลุยดำเนินคดี 8 รีสอร์ต-ขบวนการค้าที่ดินให้ต่างชาติ

สั่งอายัดสนามบินเอกชนสร้างตัดภูเขา 150 ไร่บนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานีพร้อมยึดพื้นที่บุกรุก กรมป่าไม้ลุยนายทุนบุกรุกป่าสงวนฯ ป่าเกาะพะงัน ดำเนินคดี 8 รีสอร์ตและขบวนการค้าที่ดินให้ต่างชาติ

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ตั้งแต่ช่วงเช้า นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำชุดปฎิบัติการพิเศษพยัคฆ์ไพร สนธิกำลังกับชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ชุดฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เจ้าหน้าที่ทหารจาก ศปป.4 กอ.รมน.และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดปฎิบัติการทวงคืนผืนป่าลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะพะงันและเขตเตรียมประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ อ.เพาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีเป้าหมายเป็นนายทุนที่บุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ยึดถือครอบครองที่ดินเพื่อก่อสร้างโรงแรม รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ อย่างผิดกฎหมาย

โดยจุดแรกนายชลธิศ ได้นำคณะ ลงตรวจสอบที่บริเวณหาดญวน ต.บ้านใต้ พบมีการก่อสร้างบ้านพักตากอากาศ รีสอร์ท จำนวนมากบนชายหาดและพบมีการก่อสร้างสะพานบนโขดหิน เจ้าหน้าที่ ได้นำอุปกรณ์วัดพิกัดจีพีเอส เข้าตรวจสอบวัดแนวระวางและนำไปทาบกับพิกัดในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พบว่ามีรีสอร์ท 8 แห่ง บุกรุกป่าสงวนฯ และมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ประกอบด้วย 1.BAMBOO HOT มีนายธีรภรณ์​เดียววาณิชย์ เป็นผู้เช่า 2.STONE บาร์ ไม่พบเจ้าของ 3.บิ๊กบลู มี น.ส.วนิดา เขมะราวาส เป็นผู้ดูแล 4.ร้านค้า มีนายวิชัย สมทรัพย์ เป็นผู้ดูแล 5.บ้านพัก ไม่พบเจ้าของปล่อยให้รกร้าง 6.วิลล่า มีนายสมาน ยาวะรัก เป็นผู้ดูแล 7.รีสอร์ทไม่มีชื่อ มีผู้ดูแล 2 คน คือ นายวัชระพงษ์​ เกษแก้ว นายอนันต์ ชมอินทร์ และ 8.ห้องพัก ของนางสำเนียง จิตรมุ่ง โดยทั้ง 8 แห่งอ้างมี น.ส.3 ก. แต่ตรวจสอบพบว่าน่าจะเป็นการออกโดยไม่ถูกต้อง จึงแจ้งความดำเนินคดี

Advertisement

จากนั้นได้เข้าตรวจสอบจุดที่ 2 บริเวณหาดญวน แต่ห่างจากจุดแรกประมาณ 500 เมตร ลักษณะเป็นเนินเขา เห็นทะเล มีป่าธรรมชาติลักษณะป่าดิบขึ้นอยู่ แต่บางจุดพบมีการเปิดไถเป็นพื้นที่โล่ง ประมาณ 300 ไร่ไถเชื่อมกันเป็นพื้นที่เดียวและมีการจับจองแบ่งเป็นล็อกๆ ตั้งแต่ 20 – 60 ไร่ พบนายประสิทธิ ภูศิริ อ้างว่าเป็นเจ้าของพร้อมกับนำเอกสารสิทธิ ส.ค.1 จำนวนหนึ่งมาแสดง แต่จากการตรวจสอบพบว่า ส.ค.1 ที่นำมาแสดงมีพื้นที่รวมกันไม่ถึง 100 ไร่และจากการตรวจวัดพิกัดพบว่า ส.ค.1 ดังกล่าวไม่น่าจะใช่แปลงที่ิยู่ในตำแหน่งที่มีการบุกรุก จึงได้แจ้งข้อหาบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินโดยมิชอบตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และสั่งดำเนินคดี

ทั้งนี้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดปฎิบัติการพยัคฆ์ไพร กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นของขบวนการบุกรุกที่ดินโดยนายทุนมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติร่วมมือกัน โดยให้แรงงานต่างด้าวเข้าไปบุกรุกพื้นที่เพื่อเปิดป่าใหม่แล้วเข้าไปจับจองพื้นที่ จาากนั้นนำที่ดินที่มีการแบ่งเป็นล็อกๆ ขึ้นขายให้กับชาวต่างชาติบนเวปไซด์ ราคาไร่ละ 6 แสนบาท โดยแปลงที่แบ่งขายมากที่สุดคือ 60 ไร่ ไร่ละ 6 แสนบาท ก็ราคา 36 ล้านบาท รวมหลายร้อยล้านบาท

ต่อมาได้ไปตรวจสอบยังจุดที่ 3 ที่หมู่ 5 ต.บ้านใต้ ซึ่งเป็นจุดที่มีการก่อสร้างสนามบินโดยบริษัทเอกชนรายหนึ่ง พบมีการตัดภูเขาเพื่อเปิดเป็นพื้นที่โล่งสำหรับสร้างเป็นลานจอดเครื่องบิน ประมาณ 150 ไร่และพบรถแบกโฮ จำนวนหนึ่งจอดอยู่ มีนายวาทิน สุนทะวงศ์​ อ้างว่าเป็นผู้ดูแลพื้นที่ดังกล่าวมาแสดงตนพร้อมกับนำใบขออนุญาติปรับดินบนถูเขามาแสดงและเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก.และ ส.ค.1 ทั้งหมดที่มีอยู่มาแสดง แต่เจ้าหน้าที่นำรังวัดมาระวางพบว่ามีส่วนหนึ่งประมาณ 40 ไร่ มีการเปิดหน้าดินไปแล้วพบว่าไม่มีเอกสารสิทธิหรือทำเกินกว่าเอกสารสิทธิที่นำมาแสดง พบว่าเป็นการกระทำผิดยึดถือครองที่ดินและทำประการหนึ่งประการใดให้เกิดควมเสียหาต่อพื้นที่ป่าสงวนฯ ส่วน น.ส.3 ก.ที่นำมาแสดง พบว่าเป็นเอกสารที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 81 ไร่ จะดำเนินเสนอเพิกถอน และแจ้งความดำเนินคดีรวมทั้งส่งเรื่องให้ดีเอสไอด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image