เมื่อวันที่ 27พฤษภาคม ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยเข้มขึ้น ตามสถานที่ราชการสำคัญ ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า โรงเรียน โดยเน้นตรวจตราตามสถานที่สำคัญ วางมาตรการจุดตรวจจุดสกัด เน้นเรื่องอาวุธปืน สิ่งผิดกฏหมาย พร้อมกันนี้ได้ให้กก.สายตรวจฯออกตรวจตราร่วมกับทางท้องที่ ตามจุดตรวจความมั่นคง 27 จุด ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติวางแนวทาง ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งสั่งให้ชุดสืบสวนเฝ้าระวังหาข่าวตามพื้นที่จุดเสี่ยง เช่นรามคำแหง บางกะปิ บึงกุ่ม เป็นต้น เป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเป็นที่กบดานของกลุ่มผู้ต้องสงสัยในหลายกรณีที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เพื่อความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน
โดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า นอกจากมาตรการป้องกันแล้ว การประชาสัมพันธ์เป็นสิ่งสำคัญทางกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ โดยกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด ได้จัดทำแผ่นประชาสัมพันธ์ หลักการสังเกตวัตถุต้องสงสัย โดยนำเสนอผ่านช่องทางเฟชบุ๊ก เพจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หากประชาชนพบเห็นวัตถุต้องสงสัย ขอให้ใช้สติและดำเนินการตามหลัก 3 ไม่ 1 ดู คือ ไม่เคยเห็น ว่าสิ่งของเหล่านั้นไม่เคยพบเห็นในบริเวณนั้นมาก่อน, ไม่รู้เป็นของใคร เป็นสิ่งที่ไม่มีเจ้าของ หรือหาเจ้าของไม่พบ , ไม่ใช่ที่อยู่ เป็นสิ่งของที่ควรอยู่ในที่อื่นมากกว่าที่จะมาอยู่บริเวณนั้น,และ ดูไม่เรียบร้อย เป็นสิ่งของที่มีลักษณะภายนอกผิดปกติ หรือผิดไปจากความเป็นจริง นอกจากนี้ในแผ่นประชาสัมพันธ์ได้แนะนำข้อควรปฏิบัติว่าทำอย่างไรเมื่อพบวัตถุต้องสงสัย สิ่งที่ควรปฏิบัติเมื่อพบวัตถุต้องสงสัย ห้าม แตะ จับหรือเคลื่อนย้าย ,สอบถามหาเจ้าของ ,จดจำเวลา รูปร่างลักษณะ ,แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง,กำหนดพื้นที่ปลอดภัย และรีบแจ้งตำรวจที่ใกล้ที่สุดหรือแจ้งสายด่วน 191
