เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่จ.ปัตตานี นายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองปัตตานี ได้รับแจ้งจากประชาชนที่อาศัยบริเวณถนนสาย 42 เขต ตำบลตะลุโบะ – ตำบลปะกาฮะรัง อ.เมืองปัตตานี ว่าทุกคืนวันศุกร์ – เสาร์ จะมีกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงนำรถจักรยานยนต์ 100 – 200 คัน มารวมตัวขับขี่แข่งขันบนทางหลวงสายดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนมานานนับเดือน แม้เจ้าหน้าที่ตรวจจับ แต่กลุ่มวัยรุ่นจะขับรถหลบหนีและท้าทายการจับกุม จึงนำกำลังร่วม 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง พร้อมนายมังโซ หะยีอาแว ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายธวัช กุลวุฒิพงษ์ศักดิ์ ปลัดอำเภองานป้องกัน นายชัชชัยย์ อัลอิสฮักก์ ปลัดอำเภองานยาเสพติด มาปิดกั้นเส้นทางก่อนส่งเจ้าหน้าที่เข้าปะปนกับกลุ่มเด็กแว้น ก่อนแสดงตัวเข้าจับกุม ทำให้กลุ่มเด็กแว้นแตกฮือกระจายหลบหนีไปตามตรอกซอยแต่มีกำลังเจ้าหน้าที่ซุ่มดักจับอยู่แล้วทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวายจากความพยายามขับรถฝ่าเจ้าหน้าที่ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงสามารถยึดรถจักรยานยนต์ได้ 140 คัน พร้อมควบคุมตัวกลุ่มวัยรุ่น 179 คน แยกเป็นชาย 153 คน หญิง 26 คน จากนั้นให้เจ้าของรถนำรถที่ตรวจยึดไปจอดรวมกันที่ลานจอดรถหน้าอำเภอฯ เพื่อทำประวัติและตรวจสารเสพติด เบื้องต้นพบ 24 คนมีสารเสพติด ก่อนนำรถส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี พร้อมแจ้งผู้ปกครองนำเอกสารการเป้นเจ้าของรถมายืนยันพร้อมเสียค่าปรับก่อนรับรถคืน รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ปกครองเข้มงวดไม่ให้บุตรหลานกระทำผิดซ้ำสำหรับเยาวชนที่มีสารเสพติด ผู้ปกครองต้องตัวเข้าค่ายบำบัด ศูนย์ขวัญแผ่นดิน อ.เมืองปัตตานี ต่อไป
นายไชยพร กล่าวว่า ได้รับแจ้งว่ากลุ่มเด็กแว้นจะนัดรวมตัวกันแข่งรถกันทุกสุดสัปดาห์ แม้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนพยายามแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม แต่กลุ่มเด็กแว้นไม่เคยเกรงกลัว กลับท้าทาย จึงต้องจัดกำลังออกตรวจจับให้เข็ดหราบ หลังทำประวัติพบส่วนใหญ่ยังเป็นเยาวชน จึงตรวจสารเสพติดแล้วแจ้งผู้ปกครองเดินทางมารับทราบความจำเป็นที่ต้องมีมาตรการเด็ดขาด เพื่อไม่ให้กลุ่มเด็กแว้นออกไปสร้างความเดือดร้อนอีก
“อยากฝากผู้ปกครองทุกคนช่วยอบรมสั่งสอนบุตรหลานด้วยว่า สิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี หรือสิ่งไหนที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็ต้องไม่ทำ การปล่อยปะละเลยไม่มีเวลาดูแลลูกหลาน อาจเป็นการตัดอนาคตตัวเองได้ เพราะจากการสุ่มตรวจพบหลายรายใช้สารเสพติด หลายคนยังไม่สามารถนำเอกสารมายืนยันการเป็นเจ้าของรถได้ ไม่รู้ว่ารถนั้นขโมยมาหรือไม่ ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการ ฝากช่วยกันดูแลตักเตือน เพื่อไม่ให้หลงไปกระทำสิ่งผิดในอนาคตได้ หากครั้งต่อไปยังพบการรวมตัวสร้างความเดือดร้อนกับชาวบ้านอีก จะดำเนินการตรวจยึดและบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด” นายไชยพร กล่าว
