นักศึกษา มรภ.ศรีสะเกษ เดินตามรอยพระบาท ร.9 น้อมนำศก.พอเพียงมาใช้

จิราภรณ์ (ซ้าย)-นวกชกรณ์ (ขวา)

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศประชาชนเดินทางมาสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นวันที่ 207 ว่า ยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาสักการะพระบรมศพอย่างคับคั่ง

น.ส.นวกชกรณ์ สุสดี อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษธุรกิจ ชั้นปีที่ 4 มหาวิยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ถือโอกาสในช่วงปิดเทอม เดินทางจากจ.ศรีสะเกษ เพื่อมากราบสักการะพระบรมศพ พร้อมเพื่อน จำนวน 2 คน ด้วยรถไฟฟรี กล่าวว่า ตั้งใจจะมากราบสักการะพระบรมศพนานแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสเดินทางมาสักที เนื่องจากติดเรียนและอยู่ไกล เมื่อปิดเทอมแล้ว จึงได้ชักชวนเพื่อนเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพทันที ซึ่งก็รู้สึกดีใจและปลาบปลื้มอย่างมาก รู้สึกเหมือนว่าได้ทำหน้าที่ของคนไทยสำเร็จ และหากมีโอกาสก็จะเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพอีก นอกจากนี้ตนได้ตั้งปณิธานว่า จะเดินตามเบื้องพระยุคลบาท โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งขณะนี้ทางบ้านก็เริ่มได้นำแนวทางดังกล่าวมาปรับใช้แล้ว ทั้งการเริ่มปลูกผักกินเอง และทำไร่นาสวนผสม นอกเหนือจากการทำอาชีพหลัก ตนเชื่อว่าจะช่วยให้ทางบ้านประหยัดค่าใช้จ่าย และมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

น.ส.จิราภรณ์ บุญสะโต อายุ 21 ปี กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้มากราบสักการะพระบรมศพ เนื่องจากตลอดทั้งชีวิต ก็ได้ทราบถึงพระราชกรณียกิจที่พระองค์พระราชทานให้แก่พสกนิกรชาวไทยอย่างไม่ลดละ พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีของการประพฤติปฏิบัติตน พร้อมทั้งยังพระราชทานแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ ในแก่ประชาชน ซึ่งทางบ้านของตนก็ได้น้อมนำไปปฏิบัติ พบว่า สามารถใช้ได้จริง ทั้งการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน ตามแนวทาง 30:30:30:10 โดยแบ่ง 30% ของที่ดินทั้งหมด เพื่อขุดบ่อน้ำ เพื่อให้มีแหล่งน้ำไว้ในการทำเกษตร นอกจากนี้แหล่งน้ำยังสามารถใช้เลี้ยงปลาเพื่อเป็นแหล่งรายได้อีก 30% ต่อมาใช้สำหรับการปลูกข้าว เพื่อใช้บริโภค ที่เหลือก็ขาย 30% สุดท้ายก็คือ ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น และอีก 10% ไว้ใช้สำหรับที่อยู่อาศัย โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ ส่งผลให้ปัจจุบันทางบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ หนี้สินที่มีอยู่ก็ค่อยๆลดลง ไม่ลำบากเหมือนในอดีต

ศศิธร นนทะวงษา (ขวา)

นางศศิธร นนทะวงษา อายุ 42 ปี พนักงานบริษัทเอกชน ถือโอกาสในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ไม่ได้ทำงาน พาลูกสาวและหลานสาว เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีเวลาว่างในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็จะถือโอกาสเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพอยู่เสมอ โดยครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 7 แล้วที่ได้มีโอกาสมา และตั้งใจไว้ว่าจะมาให้ครบ 9 ครั้ง หรือหากเป็นไปได้ก็จะมาอีกเรื่อยๆ เพราะเมื่อมากราบพระองค์ทุกครั้งก็จะรู้สึกมีความสุข ปลาบปลื้มหัวใจอยู่เสมอ เหมือนได้ใกล้ชิดกับพระองค์ ซึ่งในช่วงชีวิตที่ผ่านมาไม่ได้มีโอกาสทำเช่นนี้ และหากเป็นไปได้ตั้งใจไว้ว่า เมื่อลูกสาว เรียนจบ ตนจะกลับไปยังบ้านที่อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี เพื่อใช้ชีวิตอย่างสมถะ อยู่อย่างเรียบง่าย และน้อมนำปรัญชาพอเพียงของพระองค์มาเป็นหลักชัยในการดำเนินชีวิต รวมทั้ง จะทดลองทำเกษตรที่ทฤษฎีใหม่

Advertisement
สุจิตรา อยู่เย็น

น.ส.สุจิตรา อยู่เย็น อายุ 61 ปี พสกนิกรที่พักอาศัยอยู่ที่พุทธมณฑลสาย 8 อดีตพนักงานบัญชีบริษัทแห่งหนึ่ง เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพเพียงลำพัง กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 12 ที่ตนเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพด้วยความรักที่มีต่อในหลวง ร.9 ซึ่งตนซาบซึ้งใจทุกครั้งที่ได้มากราบอย่างใกล้ชิดในทุกๆ ครั้ง ส่วนตัวได้น้อมนำปรัชญาการดำเนินชีวิตในแบบพอเพียง ใช้จ่ายอย่างประหยัด

“การที่ได้มากราบพระองค์ใกล้ชิดขนาดนี้ นับว่าเป็นบุญอย่างยิ่ง และจะมีโอกาสใกล้ชิดกว่านี้คงไม่มีแล้ว มาทุกครั้งเป็นความตื้นตันใจ สุขอยู่ในใจ และสบายใจด้วย ความรักที่มีต่อพระองค์นั้น เป็นรักที่หาใดเปรียบเทียบได้ ปฏิญาณตนไว้ว่าจะมากราบพระองค์ให้ได้เดือนละ 2 ครั้ง วันที่ไม่ได้มาก็จะไปนั่งทำดอกไม้จันทน์ที่เขตบางบอนซึ่งเตรียมไว้ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิง” น.ส.สุจิตรา กล่าว

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ให้ประชาชนขึ้นกราบสักการะพระบรมศพ ในเวลา 21.01 น. มีจำนวนทั้งสิ้น 27,171 คน รวม 206 วัน มี 7,297,362 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศล รวม 206 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 574,364,432.26 บาท

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image