น้ำป่าทะลักซัดสะพานทางหลวงที่ศรีสะเกษขาด ผู้ว่าฯสั่งเร่งซ่อม

ศรีสะเกษ น้ำป่าทะลักซัดสะพานทางหลวงสาย 24 ขาด ขณะที่ผู้ว่าไปตรวจความเสียหายและคุมเข้มซ่อมสะพานให้ใช้การได้ด่วนที่สุด

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณกำลังมีการสร้างสะพานข้ามลำห้วยสร้าง บ้านกุดสมิง หมู่ 10 ต.หนองหว้า อ.เบญจลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ถนนสายบ้านจาน – อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี นายธวัช สุระบาล ผวจ.ศรีสะเกษ และคณะ ได้เดินทางไปตรวจสอบความเสียหายของสะพานที่กำลังก่อสร้างและได้ถูกน้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรักไหลทะลักลงมาซัดทางเบี่ยงของสะพานขาดสะบั้นส่งผลให้รถทุกชนิดไม่สามารถที่จะสัญจรไปมาได้ ทั้งนี้เนื่องจากว่า ขณะนี้ได้เกิดฝนตกต่อเนื่องในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษนานหลายวันติดต่อกัน ได้ส่งผลทำให้น้ำในลำห้วยต่าง ๆ สูงขึ้น และน้ำได้ไหลทะลักเข้าไปเอ่อท่วมไร่นาของชาวบ้านด้วย

โดยสะพานแห่งนี้ดำเนินการก่อสร้างโดย ศูนย์สะพานขอนแก่น ซึ่งต่อมาหมวดทางหลวงภูเงินได้ดำเนินการติดตั้งป้ายทางเลี่ยงพร้อมติดตั้งสัญญาณไฟ และได้จัดเส้นทางเลี่ยงจากสี่แยกบ้านจานเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงที่ 2085 ถึงหลัก กิโลเมตร ที่ 15+600 แล้วเลี้ยวขวาไปตามเส้นทางถนน อบจ.ศรีสะเกษ ถนนหมายเลข 2023 มาบรรจบทางหลวงหมายเลข 24 ที่กม.335+500 รวมระยะทาง9 กิโลเมตรซึ่งผิวจราจรดี ทำให้รถสามารถที่จะอ้อมเพื่อสัญจรไปยัง อ.เดชอุดม จ. อุบลราชธานี และจาก อ.เดชอุดม สามารถเดินทางไปยังกรุงเทพฯและภาคตะวันออกได้สะดวก และต่อมาศูนย์สร้างสะพานขอนแก่น ได้เตรียมอุปกรณ์ติดตั้งสะพานแบรี่ย์ เพื่อนำเอามาใช้ในการก่อสร้างสะพานชั่วคราว

นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ศูนย์สร้างทางขอนแก่น ได้ดำเนินการสร้างสะพานใหม่เนื่องจากสะพานเดิมมีขนาดเล็ก ความยาว 20 เมตร กว้าง 6 เมตร ซึ่งได้ทำการสร้างขยายออกให้มีความยาว 30 เมตร และกว้างกว่าเดิมเป็น 10 เมตร ซึ่งคาดว่าใช้เวลาอีกประมาณ 10 วัน จะแล้วเสร็จ ซึ่งเมื่อทำสะพานก็มีการสร้างทางเบี่ยงให้รถสัญจรไปมาได้และน้ำในปีนี้มาเร็วมาก น้ำป่าได้โหมซัดทางเบี่ยงขาดสะบั้น ตนจึงได้ประสานไปทางศูนย์สร้างทางที่ขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้รีบผิดชอบโดยตรง ให้รีบนำสะพานแบริ่งมาใช้ในการซ่อมแซมสะพานเพื่อให้สามารถใช้การได้ตามปกติ ซึ่งคาดว่าประมาณเวลา 18.00 ของวันนี้จะแล้วเสร็จ รถทุกชนิดจะสามารถสัญจรผ่านไปมาได้ สำหรับอุทกภัยในภาพรวมของจังหวัดศรีสะเกษ ยังไม่น่าเป็นห่วงเนื่องจากเป็นภาวะน้ำท่วมทุ่งอย่างเดียว และที่ได้รับผลกระทบมากหน่อยคือในพื้นที่นาที่เป็นที่ลุ่ม จากการที่ได้รับรายงานมีอยู่ 3 อำเภอ คือ อ.ขุนหาญ อ เบญจลักษณ์ และ อ.ศรีรัตนะบ้านเรือน ไร่นา ยังไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image