‘ฮัดเดอร์สฟิลด์’เบียดดวลเป้าขึ้น‘พรีเมียร์ฯ’ รับทรัพย์บานเบอะไม่ต่ำกว่า 7 พันล้านบาท!

นักเตะ และสต๊าฟโค้ชฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ฉลองแชมป์เพลย์ออฟเลื่อนชั้นขึ้นพรีเมียร์ลีก (ภาพ AFP)

ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ กลายเป็นทีมสุดท้ายที่เลื่อนชั้นจากลีก “อีเอฟแอล แชมเปี้ยนชิพ” หรือลีกอาชีพระดับดิวิชั่น 2 ประเทศอังกฤษ ขึ้นลีกสูงสุด “พรีเมียร์ลีก” ฤดูกาลหน้า 2017-18 หลังชนะการดวลจุดโทษเรดดิ้ง ที่ยังมีกลุ่มนักลงทุนชาวไทยเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย ที่สนามเวมบลีย์ สเตเดียม กรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม

ก่อนหน้านี้ ฮัดเดอร์สฟิลด์ที่ไม่เคยเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี นับตั้งแต่ตกชั้นจากลีก “ดิวิชั่น 1 เดิม” ฤดูกาล 1971-72 และจบอันดับ 5 ศึกอีเอฟแอล แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลนี้ จนได้สิทธิเล่นเกมเพลย์ออฟเลื่อนชั้นกับทีมที่จบอันดับ 3 เรดดิ้ง, อันดับ 4 เชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ และอันดับ 6 ฟูแล่ม

โดยฮัดเดอร์สฟิลด์เบียดชนะจุดโทษ “เจ้านกเค้าแมว” เชฟฯ เว้นสเดย์ ซึ่งมีเจ้าของสโมสรเป็นคนไทย 4-3 จากการเสมอกัน 2 นัด 1-1 ในเกมเพลย์ออฟรอบรองชนะเลิศ ผ่านเข้าชิงกับเรดดิ้ง ที่มีเจ้าของทีมเป็นคนไทยเช่นกัน แต่ล่าสุด เพิ่งขายหุ้นส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดให้กลุ่มนักลงทุนประเทศจีน และเหลือเพียงหุ้นรายย่อยเท่านั้น

ปรากฏว่า ฮัดเดอร์สฟิลด์เสมอเรดดิ้ง 90 และ 120 นาที 0-0 ก่อนฮัดเดอร์สฟิลด์เฉือนชนะจุดโทษ 4-3 เป็นทีมสุดท้ายที่เลื่อนชั้นตามนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และไบรตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน

Advertisement

นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ฮัดเดอร์สฟิลด์ที่เคยมี “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตศูนย์หน้า และกุนซือทีมชาติไทย ไปค้าแข้งสมัยเป็นนักเตะระยะเวลาสั้นๆ ปี 1999-2000 ในยุคที่มีสตีฟ บรูซ อดีตตำนานกองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุมทัพ จะได้รับเงินจากค่าลิขสิทธิพรีเมียร์ลีกต่างๆ ในการเลื่อนชั้นครั้งนี้อย่างน้อยถึง 170 ล้านปอนด์ (7,480 ล้านบาท / อัตรา 1 ปอนด์ 44 บาท) และอาจเพิ่มเป็น 290 ล้านปอนด์ (12,760 ล้านบาท) หากไม่ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกภายในฤดูกาลเดียว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image