นายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทย และประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในขณะนี้นั้น เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะสามารถดูแลอัตราแลกเปลี่ยนของไทย ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้แน่นอน ภาคเอกชนไม่ได้กังวลต่อสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นครั้งนี้ แต่ต้องการให้อัตราแลกเปลี่ยน เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับประเทศคู่แข่ง เพื่อความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน และไม่ให้กระทบต่อการส่งออกสินค้าของไทย ขณะนี้ผู้ประกอบการต่าง ๆ ได้หันมาพัฒนาสินค้าให้ตรงตามความต้องการของตลาด และประเทศคู่ค้ามากขึ้นแล้ว เชื่อว่าจะสามารถกำหนดราคาสินค้าได้ดีขึ้น โดยไม่กังวลปัจจัยอัตราแลกเปลี่ยนมากนัก
อย่างไรก็ตามช่วงที่ผ่านมา หอการค้าไทยมีโอกาสหารือกับ ธปท.อย่างใกล้ชิด และต่อเนื่อง เพื่อหารือถึงผลกระทบต่าง ๆ ต่อภาคเอกชนในภาพรวม หากการแข็งค่าขึ้นหรืออ่อนค่าลงของเงินบาท สอดคล้องกับสกุลเงินของประเทศคู่แข่ง ก็ไม่น่ากังวล แต่ขณะเดียวกันภาคเอกชนไทย ก็ต้องปรับตัวด้วย เพื่อลดต้นทุน พร้อมทั้งดูแลคุณภาพสินค้าให้สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้มีความได้เปรียบมากขึ้น
