เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 31 พฤษภาคม นายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี แกนนำกลุ่มเครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล พร้อมพวก 6 คน ประกอบด้วยนายไกรวุฒิ ชูสกุล,นายสมบูรณ์ คำแหง,นายเอกชัย อิสระทะ,นายเชาวลิต ชูสกุล,นายปฎิหาร บุญรัตน์,นางเจ๊ะนา วัฒนพัน ที่ถูกตำรวจออกหมายเรียกตัวได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา ในคดี”ร่วมกันชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันบุกรุกสถานที่ราชการในยามวิกาล”หลังเคลื่อนไหวชุมนุมคัดค้านการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่2 หรือเวที ค.1 โครงการท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา ที่โรงเรียนบ้านปากบาง อ.ละงู จ.สตูล เมื่อวันที่15-16 มีนาคม ที่ผ่านมา ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล โดยมีเครือข่ายประชาชนในพื้นที่อ.ละงู จ.สตูลนับ100คนเดินทางไปให้กำลังใจและมอบช่อดอกไม้
โดยก่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหานั้นนายวิโชค รณรงค์ไพรี แกนนำได้อ่านแถลงการณ์ประกาศเจตนารมณ์ ผู้ต้องหาคดีเวที ค.1 ท่าเรือน้ำลึกปากบารา ว่า “เราจะไม่ยอมจำนนให้กับความอยุติธรรม”
ด้วยความมั่นใจร่วมกันว่า “โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา คือ หายนะของจังหวัดสตูล” บนพื้นฐานของเหตุผลทางวิชาการที่พิสูจน์ได้ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นจากความรู้สึก หรือความเชื่อที่แฝงไปด้วยผลประโยชน์เฉพาะหน้าใดๆ พวกเราจึงกล้าประกาศท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาว่า โครงการนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดสตูล และในการแสดงออกของพวกเราดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นภายใต้จิตสำนึกรักบ้านเกิดเมืองนอน และหวงแหนไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมเป็นที่ตั้ง หลังจากการแสดงเจตนาให้มีการหยุดเวทีรับฟังความคิดเห็น ค.1 โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบาราจังหวัดสตูล เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2560 ณ โรงเรียนบ้านปากบาง ด้วยเพราะเราไม่อาจยอมรับให้เวทีดังกล่าวเกิดขึ้นโดยไร้ความชอบธรรมได้ เพราะนั่นคือการข่มขืนความคิด ความรู้สึกของคนสตูลอย่างเลือดเย็น ของฝ่ายที่ต้องการเดินหน้าโครงการอย่างไม่สนใจคำทักท้วงใดๆที่พวกเราพยายามส่งเสียงออกไป
และว่าโอกาสนี้พวกเราในฐานะของผู้ต้องหาคดีเวที ค.1 ท่าเรือน้ำลึกปากบารา โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา รวมถึงประชาชนผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการทั้งหมดที่มาในวันนี้ขอประกาศเจตนารมณ์ให้รับรู้กันทั่วกันว่า “เราจะไม่ยอมจำนนให้กับความอยุติธรรมใดๆ ที่จะมาทำลายสิทธิชุมชน สิทธิมนุษยชน ในอันที่จะพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วิถีวัฒนธรรมชุมชนท้องถิ่นของพวกเรา” อันเป็นไปซึ่งหลักการที่ได้รองรับสิทธิไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราพร้อมที่จะพิสูจน์สิทธิและเจตนารมณ์ตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อแสดงให้เห็นถึงเจตจำนงแห่งตนที่จะปกป้องสิทธิชุมชนและทรัพยากรสิ่งแวดล้อม และจากเหตุการณ์นี้ก็จะแปรเป็นพลังให้พวกเราได้ยืนหยัดเพื่อหยุดยั้งโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบาราอย่างถึงที่สุดต่อไป
จากนั้นก็เข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ห้องประชุมชั้น2 (ตำรวจภูธรสตูล)โดยมี พล.ต.ต.ทัตธงสักก์ ภู่พันธัชสีห์ ผบก.ภ.จว.สตูล เข้าร่วมกับพนักงานสอบสวนในการแจ้งข้อกล่าวหาและทำการสอบปากคำ แกนนำทั้ง7คนที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี ใช้เวลาประมาณ2ชม.โดยแกนนำทั้ง7คนได้ยืนยันให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา และข้อใช้สิทธิสู้คดีในชั้นศาล เพราะมั่นใจว่าได้ดำเนินการไปภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ และสิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชน ในการแสดงออก ปกป้องและหวงเหนทรัพยากรธรรมชาติและวิถีชุมชนในพื้นที่ จากนั้นเจ้าหน้าได้ให้กลับบ้านไปโดยไม่ต้องประกันตัวแต่อย่างใด
