เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน นพ.ธีระกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธาน การประชุมคณะกรรมการคุรุสภา และคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงกรณีการดำเนินการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคุรุสภา และเลขาธิการสกสค. ตัวจริง ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการคุรุสภา และคณะกรรมการสกสค. ได้มีการเสนอชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมครบถ้วนตามหลักเกณฑ์และมีความประสงค์เข้ารับการคัดเลือกเข้ารับการพิจารณา และคณะกรรมการกลั่นกรองตรวจสอบและคัดเลือกบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อฯ ทั้ง 2 ตำแหน่ง ได้เปิดมีการแสดงวิสัยทัศน์ เพื่อกลั่นกรองรายชื่อให้เสนอให้คณะกรรมการคุรุสภา และคณะกรรมการสกสค. พิจารณาเลือกผู้เหมาะสม ตำแหน่งละ 1 คน แต่เนื่องจาก มีการร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติผู้สมัคร ของทั้ง 2 ตำแหน่งค่อนข้างมาก ประกอบกับ ขั้นตอนการสรรหาอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติยกเลิกการสรรหาเลขาธิการทั้ง 2 ตำแหน่ง และมีมติให้ดำเนินการสรรหาใหม่ โดยหลักเกณฑ์ที่มีความเป็นธรรม โปร่งใสและได้คนที่ตรงตามวัตถุประสงค์ ทั้งนี้ การสรรหาครั้งใหม่ ตนจะยึดตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที 17/2560 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 17/2558 ที่ระบุไว้ในข้อ 2 วรรคสองว่า ในกรณีที่เห็นสมควร รัฐมนตรีว่าการศธ. อาจให้คณะกรรมการคุรุสภา และคณะกรรมการสกสค. ตามคำสั่งนี้ แล้วแต่กรณีดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งเลขาธิการคุรุสภา และเลขาธิการสกสค. และผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ของสกสค. ตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามที่รัฐมนตรีว่าการศธ. กำหนด ทั้งนี้การยกเลิกการสรรหารครั้งนี้ถือว่าดำเนินการได้ เนื่องจากกระบวนการคัดเลือกยังไม่สิ้นสุด อยู่ระหว่างการพิจารณาทางปกครอง ยังไม่กระทบสิทธิผู้สมัคร ส่วนผู้สมัครเดิมที่มีคุณสมบัติครบก็สามารถสมัครเข้ารับการสรรหาใหม่ได้
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งหัวหน้า คสช. การสรรหาใหม่ จะดำเนินการทั้ง 3 ตำแหน่ง คือ เลขาธิการคุรุสภา เลขาธิการสกสค.และผู้อำนวยการองค์การค้าฯ โดยตนจะเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์การสรรหาและแต่งตั้งทั้ง 3 ตำแหน่งด้วยตนเอง ส่วนจะให้คณะกรรมการสรรหาชุดเดิมทำหน้าที่คัดเลือกผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมเช่นเดิมหรือไม่นั้น ตนคงต้องตัดสินใจใหม่อีกครั้ง เพราะการสรรหาครั้งนี้ เหตุผลหนึ่งที่ต้องยกเลิก นอกจากกรณีมีข้อครหาเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัครแล้ว ในส่วนของตำแหน่งเลขาธิการสกสค. ยังพบว่า กรรมการสรรหาตัวจริง ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมเพื่อลงคะแนนเสียงคัดเลือกผู้เหมาะสมได้ โดยอ้างว่า เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียง อีกทั้งยังมีปัญหา อยู่ระหว่างการฟ้องร้องกับผู้ได้รับการเสนอชื่อรายหนึ่ง จึงส่งตัวแทนมาร่วมประชุม ซึ่งตามกฎหมาย ตัวแทนไม่สามารถออกเสียงแทนได้
“การสรรหาครั้งนี้มีผู้สมัครน้อย คณะกรรมการที่มีสิทธิ์เสนอชื่อทั้ง 2 ตำแหน่ง ก็เสนอชื่อมาน้อย เช่น เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ซึ่งทำหน้าที่ดูแลครู ก็ไม่เสนอใครเข้ารับการสรรหา ต่างจากการสรรหารองเลขาธิการคุรุสภา ซึ่งผมกำหนดเกณฑ์เอง เปิดกว้างทำให้มีคนมาสมัครมากถึง 70 คน สามารถคัดเลือกคนที่มีคุณภาพทำงานได้ และไม่มีข้อครหา แต่ครั้งนี้ตัวเลือกน้อย จึงอาจทำให้การคัดเลือกคนไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์การจัดตั้งหน่วยงาน การสรรหาครั้งใหม่ ผมจะไปหารือกับผู้ที่ความรู้ในแต่ละด้าน เพื่อให้คัดเลือกคนได้ตรงสเป็กขององค์กร”นพ.ธีระเกียรติกล่าว
