เกือบวุ่น! วงเจรจา ‘ป้อมมหากาฬ’ สะกิดปมกฎหมายก่อนถกเถียงหนัก สุดท้ายจบด้วยดี (คลิป)

สืบเนื่องกรณีการประชุม 3 ฝ่ายเพื่อหาทางออกกรณีชุมชนป้อมมหากาฬ ซึ่งวานนี้ (1 มิถุนายน) สมาคมสถาปนิกสยามเสนอให้อนุรักษ์บ้าน 24 หลัง โดยกรุงเทพมหานคร(กทม.) เห็นพ้อง 2 หลัง และขอ “แขวน” คือ ยังไม่ตัดสินใจ 4 หลัง เนื่องจากติดปัญหาบางประการ เช่น กรรมสิทธิ์ และทะเบียนราษฎรคงเหลือ 16 หลังที่จะพิจารณาต่อในวันนี้

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ได้มีการประชุมโดยคณะกรรมการ 3 ฝ่าย ได้แก่ 1.ฝ่าย กทม. นำโดยนายยุทธพันธุ์ มีชัย เลขานุการผู้ว่าฯกทม. และนายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม. 2.ฝ่ายชุมชนและนักวิชาการ 3.ฝ่ายทหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงแรกของการประชุม ทางชุมชนได้เสนอให้มีการนำบ้าน 11 หลัง ซึ่งเดิมถูกตัดออกจากกลุ่มบ้านที่จะได้รับการพิจารณาเนื่องจากถูกมองว่าไม่เข้าเกณฑ์คุณค่า 5 ด้าน ให้นำกลับมาพิจารณาร่วมด้วย โดยทาง กทม.ยินดีรับฟังการนำเสนอ

นางภารนี สวัสดิรักษ์ นักวิชาการอิสระด้านผังเมือง กล่าวว่า ชุมชนป้อมมหากาฬไม่ได้สำคัญเฉพาะบ้านแต่ละหลัง แต่ความสำคัญอยู่ที่ ‘พื้นที่’ ดังนั้นบ้านทุกหลังจึงมีความสำคัญในแง่ของการตั้งหลักแหล่ง จึงต้องแยกว่าในมุมของผังเมือง บ้านหลังไหนมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน

Advertisement

ผศ.ดร.รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า พื้นที่นี้น่าจะเป็นย่านยุทธศาสตร์ใหญ่ เพราะ รัชกาลที่ 1 เคยมีพระราชดำริว่าจะทำสะพานข้ามคลองคูเมืองให้ช้างเดินข้ามไปมา แต่พระวนรัตน์ปรามไว้เพราะกลัวข้าศึกกรูเข้ามา เดิมเป็นชุมชนที่อยู่หนาแน่น เป็นที่ตั้งวิกลิเกพระยาเพชรปาณี เป็นชุมชนที่สะท้อนให้เห็นถึงการตั้งถิ่นฐานยุคต้นรัตนโกสินทร์

ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งของการประชุมในภาคเช้า นายอภิชาต พงษ์สวัสดิ์ จากสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ได้ขออนุญาตที่ประชุมขอพูดคุยประเด็นกฎหมาย เนื่องจากมีเรื่องของสิทธิการอยู่อาศัย โดยห่วงเรื่องการที่ชาวบ้านจะต้องออกจากชุมชน ในขณะที่นายยุทธพันธุ์มองว่าไม่ใช่ประเด็นที่พูดคุยในวันนี้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการนำเสนอเรื่องการพิสูจน์คุณค่า 5 ด้าน ไม่ใช่เรื่องกฎหมาย ซึ่งจะกลายเป็นการย้อนกลับไปสู่การพูดคุยก่อนหน้า

นายยุทธพันธุ์ได้เสนอให้นายอภิชาตไปหารือนอกห้องประชุม ร่วมกับนายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ผู้ช่วยของตนซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายได้หรือไม่ แต่นายอภิชาตปฏิเสธ โดยระบุว่าควรมีการพูดคุยอย่างเปิดเผยในที่ประชุมเพื่อให้รับทราบร่วมกัน

ด้านนายพรเทพ บูรณะบุรีเดช รองประธานชุมชนป้อมมหากาฬ กล่าวว่า ทางชุมชนรู้สึกติดใจประเด็นบ้าน 4 หลังที่ถูก “แขวน” เนื่องจากเกี่ยวข้องกับประเด็นกฎหมาย

นายยุทธพันธุ์จึงอธิบายย้อนถึงการนำเสนอประเด็นกรรมสิทธิ์และทะเบียนราษฎร โดยว่าที่ ร.ต.สุทัศน์ กาเซ็ม หัวหน้ากลุ่มงานจัดกรรมสิทธิ์ เมื่อวานนี้ว่าเป็นการนำเสนอข้อมูลตามหน้าที่ ส่วนบ้านที่ถูก “แขวน” นั้นจะมีการนำมาพูดคุยกันอีกครั้ง โดยจะต้องลงรายละเอียด นอกจากนี้ นายยุทธพันธุ์ยังพยายามทำความเข้าใจร่วมกันจนที่ประชุมสามารถดำเนินการประชุมต่อไปได้

นายอัชชพล ดุสิตนานนท์ นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ภาครัฐไม่ได้ถือดาบที่เป็นกฎหมายนำมาฟันลูกเดียว เป็นกรรมการชุดแรกที่รับฟังภาคสังคมอย่างแท้จริง ส่วนตัวรู้สึกชื่นชม อยากให้นายยุทธพันธุ์นั่งเก้าอี้ประธานการประชุมของทุกชุดใน 3 ประเด็นที่เป็นปัญหาอยู่ ได้แก่ 1.ทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา 2.ป้อมมหากาฬ และ 3.สะพานเกียกกาย ตนจะรู้สึกปลื้มใจอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตอนท้ายของการประชุมในช่วงเช้า นายสานนท์ หวังสร้างบุญ กลุ่มมหากาฬโมเดลได้นำเสนอตารางสรุปคุณค่า 5 ด้านของบ้านแต่ละหลัง จากนั้นพักรับประทานอาหารในเวลา 13.00 น. และจะมีการประชุมต่ออีกครั้งในภาคบ่าย คาดว่าจะเริ่มต้นไม่เกินเวลา 14.00 น.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image