เพราะภาษาอังกฤษเป็นเรื่องจำเป็นในโลกยุคใหม่ ครูพี่แนน – อริสรา ธนาปกิจ เลยชวนวัยรุ่นมาติดแฮชแท็ก #EnglishisaMust ให้หลายคนได้ฉุกคิดถึงความสำคัญและอยากจะเก่งภาษาอังกฤษฉบับ ฟุต ฟิต ฟอ ไฟ ได้แบบเทพๆ จากเทคนิค 5 ข้อ ได้แก่
1.อย่ากลัวที่จะยอมรับ และเรียนรู้ ขั้นตอนแรกในการฝึกภาษาต้องก้าวข้ามความกลัว ความอายและกังวลที่จะถูกล้อว่ากระแดะไปให้ได้ เช่นสิงคโปร์ที่ขณะนี้ได้รับการจัดลำดับว่าเป็นประเทศที่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษเป็นอันดับ 6 ของโลก ก็ไม่ได้เริ่มจากเก่งชนะเลิศแต่ต้น ยังเคยถูกต่อว่าว่าเป็นภาษาอังกฤษสำเนียง Singlish ด้วยซ้ำ แต่ต้องเริ่มจากกล้า เมื่อพูดได้แล้ว สำเนียง แกรมม่าจะตามมาเอง ต้องยอมรับว่าเรารู้ และไม่รู้ในจุดไหน เพื่อเปิดใจเรียนรู้
2. “เท” การออกเสียงแบบเดิมๆ ปัญหาสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษคือ คนไทยจำเสียงผิด จึงต้องมองหาต้นแบบการออกเสียงที่ถูกต้อง เลียนแบบวิธีเหล่านั้น ซึ่งอาจฝึกผ่านการ์ตูน ภาพยนตร์ เพลงภาษาอังกฤษ หรือเรียนผ่านแอพพลิเคชั่น ที่สำคัญคือหากเป็นหนังให้ปิดซับไตเติลและฟังเสียงอย่างเดียว และหยุดเป็นระยะๆ เพื่อลองออกเสียงตามดู หากออกเสียงได้ถูกก็จะฟังออกโดยอัตโนมัติ การเรียนแบบนี้นอกจากจะสนุก ได้เรียนรู้การออกเสียงแล้ว ผลคือจะได้ทักษะ ไวยกรณ์ รูปประโยค และความหมายไปด้วย
3.ไม่ต้องเลือกระหว่างแกรมม่า หรือสปีกกิ้ง เพราะการเรียนภาษาอังกฤษต้องมี 4 องค์ประกอบ คือ ไวยกรณ์ ความหมาย การออกเสียงที่ถูกต้องและการใช้จริง คนไทยส่วนใหญ่เน้นไวยกรณ์กับความหมาย จึงเน้นแบบจำ ท่อง แปล แต่เราควรพัฒนาทั้ง 4 ด้านไปพร้อมกัน เรื่องไวยกรณ์และความหมาย เป็นส่วนของสมองซีกซ้ายที่ต้องใช้ความจำ แต่การออกเสียงเป็นสมองซีกขวา ต้องใช้การทำซ้ำและประสบการณ์
4.เทคนิคการจำ ยิ่งมีคลังคำศัพท์ในหัวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยให้เราสื่อสารได้ดียิ่งขึ้น การจะจำให้ดีต้องรู้จักสร้างความสัมพันธ์ เช่น นำศัพท์หรือจำมาแทนอวัยวะในส่วนต่างๆ ที่เรากำหนดไว้เพื่อจำแบบเรียงลำดับ และจินตนาการตามภาพ เพื่อให้จำได้ง่ายขึ้น อีกเทคนิคคือการเชื่อมโยงคำ การออกเสียงและความหมาย หรือ “Memologic” ซึ่งมีวิธีการจำคือ จดจำศัพท์ด้วยเสียงที่เราคุ้นเคย เชื่อมโยงกับความหมายและการออกเสียงของศัพท์ ทำให้ไม่น่าเบื่อ เช่นคำว่า Arouse (v.) แปลว่า เร้าใจ กระตุ้น ให้จำว่า อะ เร้า! Arouse เร้าใจ กระตุ้น เป็นต้น
5.อย่าหยุดเรียนรู้ หลายคนเมื่อสอบเสร็จหรือเรียนจบมักทิ้งภาษาอังกฤษไป ทั้งที่จริงๆ แล้ว อังกฤษมีหลายระดับที่ศึกษา บางคนสื่อสารได้แล้วก็จะละเลย หากนำไปต่อยอดให้เชี่ยวชาญขึ้น
น่าเสียดายมากๆ ที่น้องๆ หลายคนทิ้งภาษาอังกฤษทันทีหลังจากสอบเสร็จหรือเรียนจบ ทั้งที่ความจริงแล้วภาษาอังกฤษมีหลายระดับที่ศึกษา หรือบางคนที่พูดได้สื่อสารได้แล้วก็จะเลือกที่จะละเลย หากมองเป็นโอกาสที่จะต่อยอดความรู้ ความสามารถเฉพาะด้านให้กว้างไกล ก็จะดียิ่งกว่า
เทคนิคพิชิตอิงลิช
