นายประชาคม จันทรชิต รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ร่วมกับ แอ็ดดร้า ประเทศไทย และแอคเท็ด ประเทศไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาวิชาชีพผู้ที่พำนักในศูนย์พักพิงชั่วคราว ชายแดนไทย-พม่า และใน จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีตนเป็นประธาน โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อร่วมมือในการจัดการฝึกอบรมวิชาชีพให้กับผู้ที่พำนักในศูนย์พักพิงชั่วคราวชายแดนไทย-พม่า และประชาชนโดยทั่วไปในพื้นที่ใกล้เคียง ให้มีความรู้ สามารถประกอบอาชีพ และได้รับวุฒิการศึกษาตามความเหมาะสม และยกระดับคุณภาพชีวิต ในขณะที่ที่อยู่อาศัยในที่พักพิงชั่วคราว และเมื่อได้กลับไปประกอบอาชีพในถิ่นฐาน ทั้งยังเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีในการบริการสังคมให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาอาชีวศึกษา โดย สอศ.จะให้ความร่วมมือในการจัดการบริการด้านอาชีวศึกษา และการฝึกอาชีพ ซึ่งจะเลือกวิชาชีพที่ตอบสนองความต้องการทักษะวิชาชีพของผู้หนีภัย และความต้องการแรงงานในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์
“สอศ.ได้จัดส่งวิทยากรไปถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับผู้พำนักที่จะเป็นผู้ฝึกอบรมในศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งมีสถานศึกษาที่ให้ความร่วมมือในการจัดฝึกอบรมวิชาชีพ 8 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยสารพัดช่าง (วช.) กาญจนบุรี วช.ราชบุรี วิทยาลัยการอาชีพ (วก.) แม่สะเรียง วก.นวมินทราชินีแม่ฮ่องสอน วก.แม่สอด วิทยาลัยเทคนิค (วท.) ตาก วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก วท.กาญจนบุรี โดยเปิดสอน 7 สาขาวิชา ได้แก่ การตัดเย็บเสื้อผ้าสตรีและบุรุษ การบริการโรงแรมเพื่อประยุกต์ใช้ในงานอาชีพขั้นสูง การใช้งานโปรแกรม Photoshop อาหารและขนม เสริมความงาม งานติดตั้งไฟฟ้าภายในอาคาร และซ่อมจักรยานยนต์” นายสุเทพ กล่าว
นายสตีเฟ่น คูปเปอร์ ผู้อำนวยการแอ็ดดร้า ประเทศไทย กล่าวว่า แอ็ดดร้า ประเทศไทย เป็นองค์กรอิสระด้านมนุษยธรรมที่ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป และกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา โดยดำเนินการช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติและการพัฒนาสังคมให้กับผู้ที่พำนักในศูนย์พักพิงชั่วคราวชายแดนไทย-พม่า ประชาชนในบริเวณใกล้เคียง จำนวน 7 แห่ง ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ ใน จ.ตาก 3 แห่ง ได้แก่ วท.ตาก วท.แม่สอด และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก จ.ราชบุรี 1 แห่ง ได้แก่ วช.ราชบุรี จ.แม่ฮ่องสอน 1 แห่ง ได้แก่ วก.แม่สะเรียง และ จ.กาญจนบุรี 2 แห่ง ได้แก่ วช.กาญจนบุรี และ วท.กาญจนบุรี โดยองค์กรจะจัดหาสถานที่ ตารางเวลา และจัดชั้นเรียนร่วมกับสถานศึกษาในกำกับดูแลของ สอศ.ในการฝึกอบรมวิชาชีพ ตลอดจนจัดหาทุนสนับสนุนการฝึกอบรมวิชาชีพ รวมถึง การศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาการฝึกอบรมวิชาชีพสำหรับประชากรในศูนย์พักพิงชั่วคราวด้วย
