ถอดบทเรียน’เปรี้ยว’ สังคมป่วย ‘5 ก’

เป็นคดีสะเทือนขวัญคนไทยทั้งประเทศ กรณีฆ่าหั่นศพ “แอ๋ม” วริศรา กลิ่นจุ้ย จากการลงมือของ “เปรี้ยว” ปรียานุช โนนวังชัย และพวก
หากย้อนกลับไปในอดีต เหตุฆาตกรรมอำพรางลักษณะคล้ายกันนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง และคดีโด่งดังมากที่สุดคดีหนึ่ง เกิดขึ้นในปี 2541 เสริม สาครราษฎร์ นักศึกษาแพทย์ปีที่ 2 ก่อเหตุฆ่าหั่นศพ เจนจิรา พลอยองุ่นศรี แฟนสาว
หรือในปี 2554 ชาญชัย น้ำใจ ชาว จ.อุดรธานี ป่วยพิการทางสมองถูก บุญหนา มาพิบูลย์ ฆ่าหั่นศพแยกชิ้นส่วน

ล่าสุดในปี 2559 อาเธอร์ เซการา พรินเซพ หรืออาร์ตู สัญชาติสเปน ก่อคดีสยองขวัญฆ่าหั่นศพเพื่อนร่วมชาติ เดวิด เบอเนต โมราด ทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา

แม้คดีเหล่านี้ผู้ก่อเหตุจะถูกจับได้และบางส่วนถูกลงโทษตามกฎหมายแล้ว
แต่ยังทิ้งคำถามน่าสนใจ เหตุใดเขาเหล่านั้นถึงกล้าลงมืออย่างเหี้ยมโหด สยองขวัญ เช่นนี้

ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตวิทยาและที่ปรึกษาโครงการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ให้มุมมองกรณีของเปรี้ยวว่า เป็นอาการทางสังคมมากกว่าอาการทางจิต หนุ่มสาวยุคใหม่โดยเฉพาะในเจนวาย มี “5จี” รวดเร็วเกินไป ขอเรียกว่า 5 ก คือ ก๊อป โก้ ก๊วน ก๊ง กาม
ก๊อบปี้ เลียนแบบเขาทุกอย่าง เลียนแบบฝรั่ง-เกาหลี มีอะไรต้องรีบแชร์ เขาศัลยกรรมก็รีบทำ อยากรวยเหมือนคนอื่นเขา ตามกระแส
โก้ อยากรวย อยากดัง อยากสวย อยากเท่ และมีอีโก้ อยากรวยโดยไม่สนใจว่าหาเงินจากไหน
ก๊วน มีพรรคพวก ตอนนี้ที่น่าอันตรายกลายเป็นผู้หญิงที่มีพรรคพวกมีเพื่อน อาจมากกว่าผู้ชายเสียอีก เพราะก่อนนี้ผู้หญิงไม่ค่อยออกจากบ้าน พอมีเพื่อนฝูงเที่ยวเตร่เที่ยวผับ
ก๊ง สูบบุหรี่กินเหล้าเบียร์เมายา
กาม นำมาสู่เรื่องกามารมณ์ มั่วเพศ เซ็กซ์กลุ่ม

Advertisement

ดร.วัลลภชยายเพิ่มเติมว่า ทั้งหมด 5 ก เอาแต่ใจหมด เมื่อไม่ได้ดั่งใจ มาจบที่ “แก้” คือ แก้ตัว-แก้ผ้า-แก้แค้น เมื่อมีเรื่องผิดใจก็เกิดความแค้น ทุกวันนี้สังคมไทยไปตามวัฒนธรรมต่างๆ กลุ่มเหล่านี้อันตรายมาก ทุกวันนี้เราเลี้ยงลูกผิดๆ เลี้ยงให้เป็นคนเอาแต่ใจ เด็กไม่เคยมีความอดทน ฝรั่งเกิดปัญหานี้มาก่อน จึงแก้ด้วยการพัฒนาอีคิวให้อารมณ์หนักแน่น อารมณ์ดี แต่ยังไม่พอต้องมีเอคิว คือ อดทน

“เมื่อก่อนฆ่าหั่นศพจะเป็นผู้ชายทั้งหมด ส่วนใหญ่เกิดจากเรื่องความรักใคร่ แต่ตอนนี้มีผู้หญิงฆ่าหั่นศพแล้ว การฆ่าหั่นศพมี 2 เหตุผล 1.ฆ่าโดยไม่ได้ตั้งใจ สังคมไม่รู้ว่าคนที่จะฆ่าหรือข่มขืนคือคนใกล้ชิด การฆ่าหั่นศพเกิดจากหุนหันพลันแล่น หรืออาจคิดไว้ก่อน แต่ตอนทำไม่คิดแล้ว พอทำแล้วกลัวคนรู้เพราะเป็นคนใกล้ชิด จึงต้องปิดบังอำพรางศพ เอาออกไปทั้งตัวไม่ได้ กลัวคนรู้เลยต้องหั่นเป็นชิ้นไปทิ้ง 2.ฆ่าหั่นศพเพราะความรัก เมื่อโดนอีกฝ่ายทิ้งแล้วทำใจไม่ได้ต้องตัดเนื้ออีกฝ่ายไว้ เนื้อส่วนไหนที่ชอบก็จะตัดส่วนนั้น ตัดใบหน้า ตัดหัว ถ้าแขนขาสวยก็ตัดส่วนนั้น หรือตัดหน้าอก แล้วเอาชิ้นส่วนที่สวยที่สุดมาฝังไว้หรือทิ้งไว้ในที่ซึ่งตัวเองชอบ อาจเป็นที่ดินของตัวเอง”

ยุคนี้น่าจะต้องสอนการให้อภัย แต่สังคมมีแต่แก้แค้น การก่อการร้ายก็เกิดจากการแก้แค้น หนังฝรั่งสร้างเกี่ยวกับเรื่องการแก้เเค้น เป็นอาการสังคมทั้งหมด ถูกหักหลังแล้วแก้แค้น อาจไม่ได้เป็นโรคจิตโรคประสาทแต่เป็นอาการทางจิต การต่อต้านสังคม ไม่สนใจสังคม ทุกวันนี้เราขาดสติสังคมมาก อยู่ในโลกส่วนตัวในมือถือมีความสุขส่วนตัว

ขณะที่ นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สะท้อนความรุนแรงในสังคม โดยยกตัวอย่างของ “เปรี้ยว” ว่า เรากำลังสับสน เอาหลายเรื่องมาปนกัน จริงๆ แล้วการฆ่าและการอำพรางศพต้องแยกกันก่อน เนื่องจากจุดเริ่มคือ ความรุนแรงจนถึงกับฆ่า เมื่อฆ่าแล้วก็หวาดกลัวและต้องการอำพรางศพ ไม่ว่าวิธีใดก็ตามเราต้องมาดูว่าสังคมได้อะไรจากกรณีนี้ ไม่ใช่มุ่งนำเสนอข่าวอย่างเดียว กลายเป็นเกาะติดเรื่องของผู้กระทำผิด

สุดท้ายเด็กและเยาวชนจะเข้าใจผิดว่าการนำเสนอข่าวแบบนี้มากแสดงว่าสังคมให้ความสนใจ พวกเขาไม่รู้หรอกว่าดีหรือไม่ดี ดังนั้นต้องคิดถึงเด็กและเยาวชนด้วย อย่างเรื่องนี้สังคมควรต้องเรียนรู้ การกระทำความรุนแรงที่เกิดขึ้นมาจากอะไร อาจเกิดจากการเลี้ยงดูลูกไม่เหมาะสม มีแต่ความรุนแรง ซึ่งเกิดได้ทั้งพ่อแม่ทะเลาะกัน ตีกัน หรือไปถึงทำร้ายลูก ไม่ว่าจะทำร้ายรูปแบบใดก็ตาม ทั้งร่างกาย ทางวาจา หรือแม้แต่การทอดทิ้ง ทั้งหมดมีผลตอนพวกเขาเติบโตทั้งสิ้น เพียงแต่ตอนนี้เราไม่รู้และยังไม่เห็นเท่านั้น

การจะป้องกันปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้น นพ.ยงยุทธแนะนำว่า 1.ตัวพ่อแม่ถ้ามีปัญหาต้องรีบแก้ไข หากแก้เองไม่ได้ต้องหาบุคคลที่สามารถช่วยเหลือ หรือหากไม่ได้อีกก็ควรต้องปรึกษาจิตแพทย์เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง และ 2.หากลูกมีปัญหาก็ต้องเร่งแก้ไข ลูกมีปัญหาทางอารมณ์หรือมีสมาธิสั้นต้องปรึกษาแพทย์ แต่ที่ผ่านมาเป็นปัญหาโดยเฉพาะพ่อแม่ทำงานเครียดก็จะไปลงที่ลูก ต้องเข้าใจว่าปัญหาต่างๆ มีทางออก ค่อยๆ คิด หรือปรึกษาจิตแพทย์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image