มิโลวาน ราเยวัช กุนซือใหม่ทีมชาติไทย ประเดิมคุมทีมนัดแรกแบบเหงาๆ บุกไปแพ้ อุซเบกิสถาน 2-0 ในเกมอุ่นเครื่อง ซึ่งแทบจะไม่มีใครสนใจ แถมตัวผู้เล่นก็เกือบจะเรียกไม่ได้ว่าเป็นทีม ชุดใหญ่
ผมไม่เข้าใจว่าทำไม สมาคมฟุตบอล เลือกเปิดตัวโค้ชใหม่ด้วยเกมนี้ เราไม่มีความพร้อม ไม่มีนักเตะ เมืองทอง ที่ติดโปรแกรมแข่งจนล้า สุดท้ายราเยวัชต้องหอบทีมชาติชุด บีบวก ออกไปโดนอุซเบกิสถานเชือดนิ่มๆ แพ้กลับบ้านตามความคาดหมาย
เข้าใจว่า “ของจริง” สำหรับราเยวัชคือ นัดเจอกับ อาหรับเอมิเรตส์ ทำศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกในบ้าน 13 มิถุนายน แต่ถ้าจะส่งเสริมกันก็น่าจะหา ทีมเล็กๆ มาอุ่นเครื่อง หรือหากไม่พร้อมจริๆง ก็รอให้ราเยวัชมีทีมชุดที่ดีที่สุด แล้วรอหวดกับเอมิเรตส์ทีเดียวไปเลยดีกว่า
เกมเจออุซเบกิสถานแทบไม่มีความหมายอะไร เพราะนักเตะที่ลงเล่นวันนั้นน่าจะเหลือไม่เกิน 3 คนที่มีโอกาสลงตัวจริง ในวันที่เราฟูลทีม 100 เปอร์เซ็นต์
สมาคมฯ เลือกเปิดตัวโค้ชใหม่ในเกม ฆ่าตัวตาย แบบนี้ มิโลวาน ราเยวัช ก็ได้แต่หวังว่าแฟนบอลจะเข้าใจ และให้โอกาสเขา
แต่พอแพ้นัดแรก นัดต่อไปกับเอมิเรตส์ก็โดนบีบให้ แพ้ไม่ได้ ถึงทีมไทยจะตกรอบบอลโลกไปแล้ว แต่อย่าลืมว่าความคาดหวังที่มีต่อโค้ชต่างชาตินั้น สูงกว่าโค้ชไทยนะครับ
ถ้าราเยวัชทำทีม 2 นัดแรก แพ้รวด คนจะเอาไปเปรียบเทียบกับ โค้ชซิโก้ ทันที
แล้วสิ่งที่แฟนๆ อยากเห็นจากราเยวัชก็ใช่ว่าจะสร้างกันได้ชั่วข้ามคืน
นอกจากอยากเห็นทีมไทยชนะ ยังหวังว่าเราจะมีความเป็นมืออาชีพเหมือนตัวโค้ชด้วย
เป็น มืออาชีพ คือ เล่นบอลมีระบบ มีแทคติคที่คมคาย มีความแน่นอนในเกมมากขึ้น ทั้ง เกมรับ เกมรุก
ความแน่นอน คือ ปัญหาของทีมไทย ที่ผ่านมาเราอาจจะเล่นดี เล่นสนุก แต่ก็ดีด้วยหัวใจ ชนะด้วย สปิริตนักสู้ มากกว่า แทคติค
ทีมที่มีแค่ หัวใจ ไม่มีทางชนะทีมใหญ่ระดับทวีปได้ จะเห็นว่าเจอทีมแข็งทีไร เรามักจะแพ้เพราะความผิดพลาดทั้งในเกมรับ และเกมรุก ลูกไม่น่าเสียก็เสีย ลูกที่น่าได้ประตูก็ไม่ได้
พลาดแบบนี้ เป็นเพราะเล่นบอลไม่ละเอียด ซึ่งโค้ชมืออาชีพอย่างราเยวัชต้องแก้ให้ตก หรืออย่างน้อยก็ต้องปรับให้ดีขึ้น
ผมเชื่อว่า ถ้ามีเวลามากพอ และ คนดู กับ คนจ้าง ยอม อดทนรอ หลายอย่างจะดีกว่าเดิม
แต่มันคงไม่ใช่ภายใน 2-3 เดือน หรือ 2-3 นัด ถ้าจะตัดสินมิโลวาน ราเยวัช ก็ควรประเมินหลังจากครบสัญญา 1 ปี
ใจเย็นๆ ปล่อยให้โค้ชทำงานไปก่อนดีกว่า
