การเงิน + นิยาย = ซีรีส์ “นิยายการเงิน” …มิติใหม่ที่ท้าทาย

สารภาพเลยว่าตอนที่ได้ยินคำว่า ซีรีส์นิยายการเงินนี่ก็แอบงงอยู่เหมือนกัน ว่าเป็นหนังสือประเภทอะไรกันนะ เพราะถ้าพิจารณาตามความเข้าใจของเราแล้ว คนอ่านหนังสือสองประเภทนี้มักจะคนละแนวกันเลย แฟนหนังสือการเงินการลงทุนก็กลุ่มหนึ่ง แฟนนิยายก็อีกกลุ่มหนึ่ง

แต่เมื่ออ่านทั้งเล่ม เกมชนะหนี้โดย จักรพงษ์ เมษพันธุ์  และ คน-ลัก-ชาติโดยถนอม เกตุเอม จนจบ ก็บอกได้เลยว่านี่คือ มิติใหม่ของวงการนิยายไทยชัดๆ จนต้องขอนัดเจอสองนักเขียนในทีมที่สร้างโปรเจ็คซีรีส์นี้ คือ ปองวุฒิ รุจิระชาครและ ถนอม เกตุเอม

ชื่อของปองวุฒิ รุจิระชาครนี่ สายวรรณกรรม สายนิยายคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว จากผลงานกว่า 80 เล่มที่ทั้งอ่านสนุก ทั้งเข้าชิงและได้รับรางวัลต่างๆในระดับชาติ ส่วนถนอม เกตุเอม สายการเงินรู้จักดีชัวร์ๆกับ taxbugnoms หรือ “บักหนอม” แห่ง บล็อกภาษีข้างถนน และแฟนเพจ @TAXBugnoms ที่มีผู้ติดตามกว่า 190,000 คน รวมถึงเป็นกูรูเวปไซด์การเงินชื่อดังอย่าง Aommoney.com

จริงๆในทีมยังมีอีกสองคน คือ คุณจักรพงษ์ เมษพันธุ์ (THE MONEY COACH) และคุณธนัฐ ศิริวรางกูร (หมอนัท คลินิกกองทุน) ที่ถนัดเรื่องการเงินการลงทุนคนละประเภทกัน คือจุดเริ่มต้นมันคือช่วง 2 ปีที่แล้ว ที่มีหนังสือการเงิน การลงทุนเยอะมาก เฟื่องจนเฟ้อ ล้นตลาดมาก เราเองรู้สึกว่าเริ่มเบื่อ มันซ้ำ วิธีคิดเหมือนกัน แค่เปลี่ยนโปรดัคกับเรื่องที่โฟกัส แล้วก็วนอยู่ตรงนี้ เป็นยุคที่กูรูการเงินกำลังเริ่มเติบโต แต่เราที่ทำมาสักพักเริ่มเบื่อ เพราะทำมานาน รวมปีนี้ก็แปดปีอย่างต่ำ ทำตั้งแต่ยังไม่มีกูรูการเงินจนมีเต็มไปหมดเลย คุณธนัฐก็มาชวนว่าเรามาทำนิยายการเงินกันไหม เรื่องของการเงินการลงทุน เหมือนที่ญี่ปุ่นมีซีรีส์เกี่ยวกับอาชีพการทำงานจริงๆ ไม่ใช่แค่เอาไปแปะเป็นแบ็คกราวด์ กระจายความรู้ให้ถึงคนมากขึ้น เจอคนอ่านกลุ่มใหม่ๆ ก็คิดว่าจะทำไงดี แล้วเราสองคนไม่เคยเขียนนิยาย เลยคิดถึงคุณปองวุฒิขึ้นมา เป็นเพื่อนที่เรียนสวนกุหลาบมาด้วยกัน  ก็ชวนมาคุยกันถนอมเล่าให้ฟังด้วยรอยยิ้ม

Advertisement

ปองวุฒิบอกว่าเมื่อได้ยินปุ๊บ เขาเองก็สนใจขึ้นมาทันที อยากลองเชื่อมสองศาสตร์ที่ถูกแบ่งแยกนี้เข้าหากัน

มันมีความเชื่อเก่าๆอยู่ ที่ค่อนข้างแบ่งแยกไปเลย การเงินก็จะเป็นสายหาเงิน ประสบความสำเร็จ รวย passive income ไปเลย ส่วน สายนิยายสายวรรณกรรม ส่วนหนึ่งถ้าไม่เปิดใจก็จะยี้เลย เฮ้ย พวกนี้คิดแต่เรื่องเงิน แบ่งคนละโลกไปเลย มีการแบ่งอะไรแบบนี้อยู่ เราเลยอยากลองเชื่อมทั้งสองด้าน สร้างตัวละครขึ้นมา แล้วลองสื่อไปหาทั้งสองกลุ่มให้มาเชื่อมต่อกัน คนสายการเงินก็ที่ไม่เคยอ่านนิยายก็ได้ลองอ่านบ้าง ได้รู้จักกับตัวละครที่ก็สอดแทรกเรื่องราวต่างๆในชีวิตไว้ มากกว่าหนังสือการเงินที่จบเป็นสเต็ปๆไปปองวุฒิอธิบาย

ถนอมฟังแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนบอกว่าเรื่องการเงินเป็นเรื่องสำคัญสำหรับชีวิต ซึ่งไม่ควรจำกัดวงอยู่แค่กลุ่มเล็กๆที่สนใจเท่านั้น

Advertisement

เรื่องเงินไม่ได้จบแค่เรื่องรวย เรื่องอยากรวย แต่เป็นเรื่องที่เราต้องสนใจตั้งแต่วิธีการคิดเรื่องเกี่ยวกับเงิน เป็นเรื่องที่ต้องคุยต้องเข้าใจ เพราะงั้นจึงควรกระจายมากกว่านี้ และไม่ใช่มากดกัน ว่าอะไรดีกว่าอะไร เราชินกับวิธีคิดที่เบลมฝั่งหนึ่งก่อน แล้วยกตัวเองให้สูงขึ้นไง ซึ่งเรื่องจริงมันๆไม่เกี่ยวเลยถนอมบอก

หลังจากวางแผนการทำงานมา 2 ปี และทีมเริ่มแรกที่มีกัน 3 คน เมื่อตัดสินใจลงมือทำจริงจัง พวกเขาก็คิดว่า เล่มเปิดซีรีส์คือเล่มที่สำคัญอย่างมาก ควรได้คนจริง-ของจริงมาเขียน และชื่อของจักรพงษ์ เมษพันธุ์ ก็เป็นชื่อแรกที่พวกเขาคิดถึง เพราะชีวิตของ THE MONEY COACH คนนี้สามารถกลายเป็นแรงบันดาลใจเป็นประโยชน์ต่อคนอ่านได้อย่างแน่นอน ชีวิตที่พยายามปลดหนี้สินหลักสิบล้านของที่บ้านได้ในไม่กี่ปี

เกมชนะหนี้เป็นนิยายแบบ Base on true story ชีวิตคุณจักรพงษ์น่าสนใจมาก เป็นเรื่องที่ทุกคนเจอเองได้ ใกล้ตัวมากๆ คุณถนอมเองก็ทำงานกับเขาจนมั่นใจว่านี่ของจริง ก็ทำงานกันแบบเจาะเรื่อง เขาเขียนมาบทความมาเล่ามา เราก็มาแปลงเป็นนิยาย ไปนั่งสัมภาษณ์ ทำความเข้าใจว่าสถานการณ์ตอนนั้นเป็นยังไง ถามทุกความรู้สึก ทุกอารมณ์ที่เจอในชีวิต

ซึ่งจะต่างกับคน-ลัก-ชาติ ของคุณถนอม เป็นนิยายแนวทริลเลอร์ ซึ่งเขาเขียนเองแล้วเรามาช่วยตบๆ คือเขาอ่านวรรณกรรมอยู่แล้ว ก่อนเขียนเล่มนี้เขาเตรียมตัวมากเลยนะ มีไปเขียนลง storylog ด้วย ซึ่งนี่ก็เป็นคดีระดับชาติที่เกิดขึ้นจริง โกงภาษีระดับประเทศเลย แต่คนจำได้น้อย คดีจบที่อดีตอธิบดีสรรพากร แต่จริงๆมีเรื่องมากกว่านั้นปองวุฒิเล่า

แล้วทำไมถนอมซึ่งรับราชการอยู่ในแวดวงดังกล่าวถึงเลือกเรื่องนี้มาเป็นเส้นเรื่องสำคัญ ทั้งที่ภาพความถนัดของบักหนอมในการรับรู้ทั่วไปคือภาษีบุคคล…เราสงสัย

ถ้าเป็นภาษีบุคคลจะไม่ได้สตอรี่อะไรเลยนะ เราเองก็ติดตามคดีนี้ด้วยเลยเข้าใจในระดับหนึ่งเขาหัวเราะ

ควรเป็นอะไรที่คนอ่านแล้วตระหนักว่าภาษีสำคัญสำหรับชีวิตเขา แล้วได้รู้ว่าเวลาคนโกงนี่ โกงแบบมีเบื้องลึกเบื้องหลังกว่าที่เรารู้เยอะ รู้สึกว่าควรเอามาเล่าให้คนเช้าใจ อย่างน้อยแค่คุณอินกับภาษี คุณจะเข้าใจหลักการ จะกล้าตรวจสอบการทำงานของรัฐ ที่เอาเรื่องแวท 7% มาเป็นเส้นเรื่องหลักเพราะเป็นภาษีที่ทุกคนต้องจ่าย ภาษีเงินได้คนจนไม่ได้จ่ายนะ แต่ถ้าลองเทียบกันนะ สมมติเราเงินเดือนเก้าพัน คุณเงินเดือนหนึ่งแสน ไปซื้อของเหมือนกัน เดือนหนึ่งคุณอาจใช้แค่สามหมื่น แต่เราใช้เก้าพันหมด ซึ่งเราเสียแวท 7%เท่ากันทั้งก้อน แต่คุณเสียแค่ 7%ของสามหมื่น ที่เหลือเก็บหมด มันมีข้อเหลื่อมล้ำเยอะในแง่สัดส่วนแต่ไม่ค่อยมีใครนึกถึง  ความเหลื่อมล้ำคือตรงนี้ ไม่ใช่ลดหย่อนภาษีได้ไม่ได้  ซื้อของราคาหมื่นห้าเพื่อลดหย่อนภาษี ไม่ซื้อจะประหยัดกว่าไหมถ้าไม่จำเป็น  ซื้อแล้วประหยัดได้ร้อยห้าสิบบาท รัฐออกนโยบายนี้มาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตอนปลายปี ตัวเลขออกมาเศรษฐกิจเลยไม่แย่ ซึ่งมีหลายทริคมาก ที่เริ่มจากการไม่รู้ภาษีของคนแค่นั้นเอง แต่ไม่ค่อยมีใครมองถนอมอธิบายทั้งหมด

ปองวุฒิบอกด้วยว่าเพราะทุกอย่างคือพื้นฐานที่มาจากความจริงอย่างที่เล่าให้ฟัง การทำงานของเขาจึงต้องหาข้อมูลเยอะมาก ต้องศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับวงการการเงินมากขึ้น อย่างเล่มต่อไปของคุณธนัฐ หรือหมอนัท คลินิกกองทุน ก็จะเกี่ยวกับหุ้น

นิยายแนวนี้ ข้อมูลที่ถูกต้องคือเรื่องจำเป็นมาก เพราะต้องช่วยชีวิตคนได้จริงๆให้คนเข้าใจจริงๆ ที่ผ่านมาเวลาเราเห็นเรื่องการแก้ปัญหาการเงิน มันก็จะลอยๆไง ประสบปัญหาเป็นหนี้ แต่ไป แต่ไปพบรักเจอสามีรวย บอกว่าเธอต้องแกร่ง เธอต้องแก้หนี้ได้ แต่สุดท้ายก็จบว่าเธอก็เจอกับนายคนนั้น จบ สุดท้ายพระเอกก็ช่วย มันไม่จริงปองวุฒิอธิบาย

เพียงแค่สองอาทิตย์ที่นิยายออกมา และยังมีแค่พรีออเดอร์เพราะจะเริ่มวางขายที่ร้านในสัปดาห์หน้านั้น แต่ฟีดแบ็คตอบรับดีมาก แบบดีมากๆๆๆๆ และเล่มที่สามก็วางไว้ว่าน่าจะเสร็จช่วงงานมหกรรมหนังสือ

เป็นการผสานได้อย่างน่าจับตามอง

ดอกฝน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image