อาจารย์ มจธ.น้อมนำคำสอน’ในหลวงร.9′ เป็นตัวอย่างลงมือทำมากกว่าแค่คำพูด

ครอบครัวผดุงเวีย

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 222 ประชาชนจากทั่วภูมิภาคแต่งกายด้วยชุดสีดำเดินทางมาต่อแถวรอกราบถวายสักการะอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน แม้จะเป็นวันทำงานและสภาพอากาศร้อนอบอ้าว ขณะที่บริเวณหน้าประตูศรีสุนทร ตั้งอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นประตูทางออกของพสกนิกรหลังกราบสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ นำอาหาร ขนม ของว่าง และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชน อาทิ ราดหน้าไก่ทรงเครื่อง ข้าวน้ำพริกมะม่วงพร้อมไข่ชะอม ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กลูกชิ้นแคะ แกงฮังเล-ไข่ต้ม น้ำพริกปลาคัง-ไข่ต้ม เฉาก๊วยชากังราว น้ำสมุนไพร และมีน้ำดื่มให้บริการตลอดทั้งวัน

นายไพรสันต์ ผดุงเวียง อายุ 38 ปี อาจารย์คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เดินทางจากบ้านย่านบางมด พร้อมนางพนิดา ผดุงเวียง อายุ 38 ปี ภรรยา และลูกชาย ด.ช.ภกภูมิ ผดุงเวียง อายุ 1 ปี 7 เดือน และคุณแม่ของภรรยา นางวันเพ็ญ พุ่มจันทร์ อายุ 64 ปี ที่เดินทางมาจากมุกดาหารกับญาติอีกหนึ่งคน เปิดเผยหลังเข้ากราบสักการะพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทว่า ตนตั้งใจที่จะเดินทางมานานแล้ว แต่ด้วยหน้าที่การงานประกอบกับช่วงก่อนหน้านี้มีประชาชนเดินทางมาจำนวนมาก จึงรอเวลาที่เหมาะสมซึ่งช่วงนี้ต่อแถวรอไม่นาน และคุณแม่เดินทางมาจากต่างจังหวัดพอดี จึงได้เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรกพร้อมกับครอบครัว ความรู้สึกที่ได้มากราบสักการะพระบรมศพวันนี้ รู้สึกเศร้าเพราะเราได้สูญเสียพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักของชาวไทย และเมื่อได้เห็นพระบรมโกศก็น้ำตาไหล

“ในฐานะที่เป็นครูได้น้อมนำพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 มายึดปฏิบัติ ซึ่งมีตอนหนึ่งที่พระองค์ท่านดำรัสกับกลุ่มครูว่า ‘เป็นครูเหรอ ฝากเด็กๆ ด้วยนะ’ คำพูดนี้อยู่ในใจตลอด สิ่งที่รู้สึกคือต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด สิ่งไหนที่คิดว่าดีก็ลงมือทำ นอกจากนี้ ยังทำตัวให้เป็นตัวอย่างกับนักเรียนนักศึกษาแทนที่จะบอกหรือสอนเขาอย่างเดียว” นายไพรสันต์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image