สกสค.เร่งทำ ‘เอ็มโอยู’ ฉบับใหม่ จี้ ‘ออมสิน’ หยุดหักเงินกองทุนเงินสนับสนุนฯใช้หนี้แทนครูมิ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน นายพิษณุ  ตุลสุข รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า  ในการประชุมคณะกรรมการสกสค. ที่มีนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการศธ. เป็นประธาน  วันที่ 16 มิถุนายนนี้ ตนจะรายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาต่าง ๆ ของสกสค.  โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งที่ผ่านมาได้ลงนามความร่วมมือบันทึกข้อตกลงหรือเอ็มโอยู การกับสหกรณ์ออมทรัพย์ไปแล้ว 17 แห่ง โดยขณะนี้สกสค.แต่ละจังหวัดอยู่ระหว่างเสนอชื่อคณะกรรมการฯ มาให้สกสค.พิจารณาแต่งตั้ง ทั้งนี้คณะกรรมการระดับจังหวัด ที่สกสค.จะลงนามแต่งตั้งถือว่า มีส่วนสำคัญอย่างมากในการแก้ปัญหาหนี้สินครู เพราะจะต้องทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบสภาพหนี้  ไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ รวมถึงพิจารณาอนุมัติผู้ที่จะเข้ารับการแก้ไขปัญหาหนี้สินครั้งนี้ด้วย  ซึ่งเท่าที่ทราบแต่ละแห่งมีผู้ยื่นความจำนงขอเข้าร่วมโครงการมาแล้ว จังหวัดละประมาณ 200-500 คน โดยจะให้ความช่วยเหลือสำหรับผู้ที่มีหนี้วิกฤตก่อน วงเงินปล่อยกู้เบื้องต้นประมาณ 1,000 ล้านบาท

“ส่วนความคืบหน้าการหารือกับธนาคารออมสิน ในการจัดทำร่างบันทึกข้อตกลงฉบับใหม่  ภายหลังมีมติยกเลิกเอ็มโอยูฉบับเดิมที่ลงนามโดนอดีตเลขาธิการสกสค. กรณียินยอมให้ธนาคารออมสินหักจากเงินกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ชำระหนี้แทนผู้กู้ที่ค้างชำระเกิน 3 งวดขึ้นไป ซึ่งจากการตรวจสอบของศธ. พบว่าเป็นการทำนิติกรรมที่ไม่ถูกต้องนั้น อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด  ซึ่งเร็ว ๆ นี้ตนจะนัดหารือถึงข้อตกลงในเอ็มโอยูฉบับใหม่ โดยมีพล.ท.โกศล ประทุมชาติ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการศธ. เป็นประธานการ โดยจะเร่งดำเนินการให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว  เนื่องจากการหารือครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมีนพ.ธีระเกียรติ เป็นประธาน มีข้อตกลงร่วมกันว่า ธนาคารออมสินจะต้องหยุดหักเงินจากกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ เพื่อใช้หนี้แทนครูที่ค้างขำระ 3 งวดขึ้นไป ตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้”นายพิษณุกล่าว และว่า  ส่วนความคืบหน้า การแก้ปัญหากรณี สกสค. นำเงินกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ ซึ้อหุ้นจากบริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด จำนวน 800 ล้านบาท เพื่อลงทุนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชนบ้านป่าตอง ต.โพนสว่าง อ.เมือง จ.หนองคาย นั้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีการหารือกับผู้บริหาร ของบริษัทหนองคายน่าอยู่ฯ ไปแล้ว  โดยปลายเดือนมิถุนายนนี้ พล.ท.โกศล และตนจะลงพื้นที่ตรวจสอบ โครงการว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ในการทำธุรกิจ เพื่อเสนอไปยังคณะกรรมการสกสค. ว่า จะเดินหน้าต่อหรือหยุดและขายหุ้นคืนให้กับทางบริษัทหนองคายน่าอยู่ฯ ตามเดิม

 

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image