เส้นทางชีวิต’โปรเม’เอรียา จุฑานุกาล ฝ่าอุปสรรคสู่’นัมเบอร์วันโลก’

CAMBRIDGE, CANADA - JUNE 11: Ariya Jutanugarn of Thailand with the trophy after sinking her birdie putt on the 1st playoff hole to win during the final round of the Manulife LPGA Classic at Whistle Bear Golf Club on June 11, 2017 in Cambridge, Canada. Vaughn Ridley/Getty Images/AFP

หลังจากล่าช้ามานาน 1 สัปดาห์ ในที่สุดแฟนกีฬาชาวไทยก็ได้ร่วมฉลองความสำเร็จกับ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล ซึ่งกลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ไม่ว่าชายหรือหญิงที่ครองบัลลังก์มือ 1 ของโลก

โปรเมนับเป็นนักกีฬาหญิงไทยคนที่ 3 ที่ได้ขึ้นไปเป็นอันดับ 1 ของโลกในกีฬาที่ตัวเองเล่น ต่อจาก น้องเมย์Ž-รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันชื่อดัง และ น้องณีŽ-สุธิยา จิวเฉลิมมิตร นักยิงเป้าบินสาวประเภทสกีต

จะต่างกันก็ตรงที่ในแง่ของความเป็นสากลหรือความนิยมในวงกว้าง กอล์ฟเป็นกีฬาอาชีพที่แพร่หลายและได้รับความนิยมไปทั่วโลก ความสำเร็จของโปรเมในครั้งนี้จึงได้รับความสนใจจากสื่อกีฬากระแสหลักทั่วโลกอย่างพร้อมเพรียง

ในห้องแถลงข่าวภายหลังการแข่งขันรายการดังกล่าว โปรเมให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า หลักประจำใจที่ทำให้มาถึงจุดนี้ได้คือทำตามความฝันŽ และ อย่ายอมแพ้Ž แม้จะฟังดูเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ก็เป็นหลักการที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของนักกอล์ฟสาววัย 21 ปี คนนี้ได้เป็นอย่างดี

Advertisement

สมัยเด็กๆ ครอบครัวของโปรเมซึ่งประกอบด้วยคุณพ่อ สมบูรณ์, คุณแม่ นฤมล, พี่สาว โปรโม-โมรียา จุฑานุกาล และโปรเม ซึ่งมีธุรกิจค้าเหล็กของครอบครัวต้องเผชิญกับปัญหาวิกฤตต้มยำกุ้งจนเป็นหนี้สิน หลังใช้หนี้หมดแล้วก็หันไปเปิดร้านขายอุปกรณ์กอล์ฟ เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่รักกีฬากอล์ฟเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

สองพี่น้อง โม-เมŽ มักเล่าเสมอว่า ตอนเด็กๆ ชอบไปวิ่งเล่นในร้าน จนคุณพ่อคุณแม่ต้องเอาไม้กอล์ฟให้ออกไปตีเล่นจะได้ไม่มากวน และกลายเป็นการฝึกฝนขัดเกลาฝีมือตัวเองเบื้องต้นโดยไม่รู้ตัว

หลังจากเริ่มฉายแววโดดเด่น คุณพ่อคุณแม่จึงพาสองพี่น้องตระเวนแข่งขัน กระทั่งโปรเมได้รับเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมรายการใหญ่ระดับเยาวชนอย่าง จูเนียร์ เวิลด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพส์ ที่สหรัฐอเมริกา ขณะอายุได้ 8 ขวบ คุณพ่อคุณแม่เลยตัดสินใจครั้งใหญ่ว่าจะให้ลูกๆ ทั้งสองเอาดีในกีฬานี้ให้สุดทาง จึงยอมขายกิจการร้านขายอุปกรณ์กอล์ฟ ขายทั้งบ้าน ขายทั้งรถ เพื่อระดมทุนในการจ้างโค้ชอาชีพมาสอน รวมถึงจัดตารางเวลาในการฝึกฝนร่างกายควบคู่ไปกับการเรียน และเดินทางตระเวนแข่งขัน กระทั่งได้ไปฝึกฝนฝีมือที่สหรัฐอเมริกา จนสร้างชื่อระดับเยาวชนในรายการใหญ่ระดับนานาชาติจนได้รับการจับตามองจากสื่อเมืองมะกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอรียาที่มีสไตล์การเล่นเน้นบุก มีพรสวรรค์เรื่องการตีไกล แถมยังมีออร่าความน่าเกรงขามที่ทำให้เพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันยำเกรง

เอรียาสร้างชื่อให้แฟนกอล์ฟทั่วๆ ไปได้เห็นหลังจากผ่านการคัดเลือกเข้าไปเล่นกอล์ฟ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทย์แลนด์ ปี 2007 ขณะอายุได้ 11 ปี ทำสถิติเป็นนักกอล์ฟอายุน้อยที่สุดที่ได้ร่วมแข่งขันรายการของแอลพีจีเอทัวร์ ณ เวลานั้น

เมื่อตัดสินใจเทิร์นโปรในปี 2012 ขณะอายุได้ 16 ปี เนื่องจากยังไม่เข้าเกณฑ์อายุที่จะแข่งขันในแอลพีจีเอทัวร์ (18 ปี) โปรเมจึงไปหาประสบการณ์จากทัวร์ระดับรองลงมาคือ เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์ และระหว่างนั้นก็อาศัยโควต้าสปอนเซอร์และการเล่นรอบคัดเลือกเพื่อเข้าไปสัมผัสกับทัวร์นาเมนต์แอลพีจีเอเป็นระยะๆ

ปี 2013 โปรเมในวัย 17 ปี เกือบคว้าแชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ที่ประเทศไทย แต่ไปพลาดฟอร์มหลุดทั้งที่นำ 2 สโตรกขณะเหลือหลุมเดียว แต่กลับเสียทริปเปิลโบกี้ที่หลุม 18 จนแชมป์หลุดมือ กระนั้น ผลงานการร่วมแข่งขันแอลพีจี 5 รายการแรกที่จบอันดับท็อป 5 ทั้งหมดก็ทำให้สื่อกีฬาโลกจับตาดูโปรเมในฐานะนักกอล์ฟที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในขณะนั้น

(Hunter Martin/Getty Images/AFP)

น่าเสียดายที่หลังจากคว้าแชมป์ เลดี้ส์ยูโรเปี้ยนทัวร์ ได้ 1 รายการ และกำลังไปได้สวยกับฟอร์มการเล่นและความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกอย่างกลับต้องหยุดชะงักลงเมื่อโปรเมประสบอุบัติเหตุหกล้มบนกรีนขณะวิ่งเล่นกับพี่สาวระหว่างซ้อม จนเอ็นหัวไหล่ขวาฉีก ต้องผ่าตัดและพักยาว 8 เดือน ตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2013 ถึงต้นปี 2014

เมื่อกลับมาแข่งขันอีกครั้ง โปรเมที่เคยแกร่งกล้าไม่กลัวใครก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป เพราะยังรู้สึกแหยงจากอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจนส่งผลกระทบกับฟอร์มการเล่นโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงกลางปี 2015 ที่สภาพจิตใจย่ำแย่ ไม่ผ่านการตัดตัวถึง 10 รายการติดต่อกัน แม้จะมีบางช่วงที่เหมือนจะกลับมาฟอร์มดีได้บ้าง แต่ก็ยังไปไม่สุด

พอถึงต้นปี 2016 โปรเมก็มาพลาดแชมป์ เมเจอร์ เอเอ็นเอ อินสไพเรชั่น อย่างน่าเสียดาย ในรูปแบบคล้ายๆ กับที่เคยเจอ นั่นคือนำมาดีๆ 2 สโตรกขณะเหลือ 3 หลุม แต่กลับเสียโบกี้ติดๆ กันใน 3 หลุมสุดท้ายจนหลุดไปจบอันดับ 4 ร่วมอย่างน่าเสียดาย

แต่สิ่งที่ต่างไปจากฝันร้ายที่ประเทศไทยคือ ครั้งนี้โปรเมพร้อมจะยืนหยัดสู้ เปลี่ยนความผิดหวังเป็นแรงผลักดัน โดยมีครอบครัวเป็นกำลังใจอยู่เคียงข้างเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่สาวและคุณแม่ที่คอยปลอบโยนและให้กำลังใจ ประกอบกับได้ทีมงานชุดใหม่ทั้งโค้ช แคดดี้ โดยเฉพาะทีม วิชั่น 54Ž โค้ชด้านจิตวิทยาซึ่งเข้ามาช่วยปรับวิธีคิดและทัศนคติระหว่างแข่งหลายๆ อย่าง

ตอนนั้นเองที่เป้าหมายของโปรเมกลายเป็นการเล่นกอล์ฟเพื่อความสนุก ไม่ไปกังวลถึงผลการแข่งขัน เมื่อจิตใจผ่อนคลายขึ้น อาการตื่นเต้นหรือเกร็งที่เคยเป็นในช่วงกดดันก็หายไป และหลังจากความผิดหวังในรายการเมเจอร์ได้เพียง 1 เดือน เอรียาก็เขย่าวงการกอล์ฟด้วยการคว้าแชมป์แอลพีจีเอถึง 3 รายการติดต่อกัน จากศึก โยโกฮาม่า ไทร์ แอลพีจีเอ คลาสสิก, คิงส์มิลล์ แชมเปี้ยนชิพ และ แอลพีจีเอ วอลวิก แชมเปี้ยนชิพ หลังจากนั้นอีกไม่กี่เดือนก็สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกไม่ว่าชายหรือหญิงที่คว้าแชมป์ระดับเมเจอร์จากศึก วีเมนส์ บริติช โอเพ่น ที่อังกฤษ ต่อด้วยอีกแชมป์ในรายการ แคนาเดียน แปซิฟิก วีเมนส์ โอเพ่น จนทะยานขึ้นไปเป็นมืออันดับ 2ของโลก

ช่วงปลายปี โปรเมกวาดรางวัลใหญ่อย่าง นักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีของแอลพีจีเอทัวร์, รางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวกอล์ฟของสหรัฐอเมริกา และโบนัส 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากคะแนนสะสม เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบŽ

ความสำเร็จของโปรเมหลังจากผ่านจุดตกต่ำในอาชีพนักกอล์ฟจนสภาพจิตใจย่ำแย่มาแล้ว กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับแฟนกีฬา สื่อ และเพื่อนนักกอล์ฟด้วยกันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานี้ที่เธอยืนอยู่บนยอดสุดของวงการกอล์ฟหญิงของโลก ซึ่งถือว่าทำฝันให้เป็นจริงได้ตามลำดับที่เคยหวังไว้ ทั้งคว้าแชมป์แอลพีจีเอให้ได้ คว้าแชมป์เมเจอร์ให้ได้ และขึ้นมือ 1 ของโลกให้ได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อขึ้นไปยืนหยัดเป็นเบอร์ 1 ของโลกแล้ว การจะรักษาตำแหน่งให้ต่อเนื่องยาวนานนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคนี้ที่มีนักกอล์ฟฝีมือดีขับเคี่ยวกันมากมาย แต่โปรเมก็ยืนยันว่าเป้าหมายสำคัญที่สุดคือการสนุกกับการเล่นกอล์ฟ ไม่ไปกังวลกับผลแข่งหรืออันดับโลกใดๆ

ขอเพียงไล่ตามความฝันและไม่ยอมแพ้ เดี๋ยวสิ่งดีๆ ก็จะเกิดขึ้นเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image