‘สูงวัย’ก็เที่ยวได้ เปิด 6 วิธีเที่ยวสนุกลืมแก่

ด้วยองค์ความรู้การดูแลสุขภาพมีเผยแพร่อย่างทั่วถึง นวัตกรรมทางการแพทย์ก็ล้ำสมัยขึ้นทุกวัน ทำให้คนวัยเกษียณหลายท่านยังแข็งแรงอยู่ หลายคนยังใช้โอกาสนี้ออกเดินทางเก็บเกี่ยวความสุข แต่ก่อนจะออกไปเจอและเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ก็ต้องเตรียมพร้อมเป็นพิเศษ

เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ จึงแนะนำ 6 วิธีเที่ยวสนุกฉบับผู้สูงวัยแบบไร้กังวล ดังนี้

1.งบประมาณ กำหนดงบประมาณในการเดินทางแต่ละครั้ง โดยพิจารณาจากสถานที่ การเดินทาง ที่พัก ระยะเวลา และค่าครองชีพของแต่ละที่ หากไปต่างประเทศควรเตรียมเงินดอลลาร์สหรัฐติดตัวไปด้วย เพราะเป็นสกุลเงินสากล และหากมีบัตรเครดิตควรติดกระเป๋าไว้เผื่อในกรณีฉุกเฉิน

2.เลือกวิธีท่องเที่ยวและผู้ร่วมเดินทาง ตัดสินใจว่าจะใช้บริการบริษัททัวร์หรือเดินทางเอง และหากเดินทางเองจะไปกับใคร แนะนำว่าถ้าจะเดินทางไปต่างประเทศควรไปเป็นหมู่คณะเพื่อความปลอดภัย หรือจะใช้บริการบริษัทนำเที่ยวก็สะดวกสบาย แต่ต้องเดินทางตามที่บริษัททัวร์กำหนดไว้

Advertisement

3.เลือกสถานที่เที่ยว การวางแผนเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ควรเลือกช่วงเวลาและฤดูที่เหมาะสมในการเดินทาง พิจารณาจากความสะดวกและปลอดภัยเป็นหลัก หากอยากไปในที่ที่เข้าถึงยากหรือขาดความสะดวกสบาย ควรมีผู้เชี่ยวชาญในการเดินทางไปยังที่นั้นๆ ติดตามไปด้วย

4.เตรียมเครื่องใช้ส่วนตัว เลือกเสื้อผ้าที่ใส่สบายและเหมาะกับสภาพอากาศ รัดกุม ไม่รุ่มร่าม ส่วนรองเท้าควรเป็นรองเท้าผ้าใบที่ใส่สบายและเป็นคู่ที่เคยใช้มาก่อน เพื่อป้องกันรองเท้ากัดและอาการปวดกล้ามเนื้อจากความไม่คุ้นชิน อย่านำของมีค่าหรือเครื่องประดับติดตัว เก็บเอกสารสำคัญ เช่น พาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบิน ไว้ในตำแหน่งที่มิดชิดและจดจำได้ง่าย แนะนำว่าควรถ่ายสำเนาแยกเก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางด้วย เผื่อกรณีฉุกเฉิน

5.เตรียมยารักษาโรค ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวต้องเตรียมยาประจำตัวไปให้เพียงพอกับช่วงเวลาที่เดินทาง จะให้ดีควรไปตรวจร่างกายก่อนเดินทางและให้แพทย์ออกใบรับรองแพทย์ฉบับภาษาอังกฤษที่แสดงรายละเอียดของโรคและยาที่จำเป็นต้องใช้เพื่อนำติดตัวไปด้วย นอกจากนี้ ยาสามัญประจำบ้าน พวกยาแก้แพ้ แก้ปวดลดไข้ ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้อาการเวียนศีรษะ ยาคลายกล้ามเนื้อ ยานวด ก็ควรเตรียมไปให้พร้อม

Advertisement

6.เตรียมร่างกาย ก่อนเดินทางควรออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายฟิตแอนด์เฟิร์มพร้อมสำหรับการเดินทาง และควรนอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 8-10 ชม. จะได้สดชื่น และหากจะไปต่างประเทศต้องปรับเวลานอนให้เข้ากับเขตเวลาของประเทศนั้นๆ ด้วยเพื่อป้องกันภาวะ Jet Lag

 

 

นอกจากนี้ การเตรียมตัวและดูแลตัวเองตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง ระหว่างเดินทาง และหลังการเดินทาง ก็สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ โดยสามารถทำได้ ดังนี้

ก่อนเดินทาง (Before the Trip)

– สำหรับผู้มีปัญหาสุขภาพควรไปพบแพทย์และตรวจร่างกายก่อนเดินทาง

– ฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่จำเป็นสำหรับประเทศต่างๆ ตามคำแนะนำของแพทย์

– ทำประกันการเดินทาง

– แจ้งล่วงหน้าต่อเจ้าหน้าที่สายการบินหากเป็นโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ และหากจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์บางอย่างระหว่างเดินทาง เช่น ออกซิเจนบนเครื่องบิน รถเข็น อาหารเฉพาะระหว่างเดินทาง (During the Flight)

– นำยาและสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วย

– เลือกที่นั่งใกล้ทางเดินและใกล้ห้องสุขา

– หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และอาหารที่ทำให้เกิดก๊าซ เช่น น้ำอัดลม

– ดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดการเดินทาง

– ระหว่างอยู่บนเครื่องควรลุกขึ้นเดินเป็นช่วงๆ และออกกำลังกล้ามเนื้อขาบ้าง

– หากมีอาการผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่บนเครื่องบินทันทีหลังการเดินทาง (After the Trip)

– เมื่อถึงปลายทางแล้วควรพักผ่อนเต็มที่เป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชม.

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image