นำคนร้ายทำแผนคดีอุกอาจยิงสองผัวเมียร้านชำ สารภาพแค่อยากได้ทอง

รอง ผบ.ตร.นำคนร้ายทำแผนคดีอุกอาจยิงสองผัวเมียร้านชำ สารภาพแค่อยากได้สร้อยทองคำ

วันนี้เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.อ.สมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.ภ.7 พล.ต.สุคุณ พรหมายน ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้เดินทางมาสอบสวน พร้อมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ การจับกุมคนร้ายผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง สองสามีภรรยาร้านชำ และชิงทองไป 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง หลวงปู่หลิว ที่เปิดเป็นร้านขายของ ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 9 พ.ค.60 เวลาประมาณ 09.00 น. ที่ผ่านมา จนต่อมาทำให้นายจำรัส เมฆหมอก สามีเสียชีวิต 1 ราย ที่ รพ. และได้ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลไปเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนภรรยา นางสมพิศ ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว

ต่อมา จนท.ตำรวจชุดสืบสวน ภูธร จ.สุพรรณบุรี ชุดสืบสวนสภ.บางตาเถร ได้สนธิกำลังร่วมกับ ชุดสืบสวน บก.สส.ภาค 7 เร่งหาเบาะแส และติดตามตัวคนร้าย ซึ่งในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ได้พบปลอกกระสุนปืนและเสื้อที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ถูกทิ้งไว้ข้างทาง ในพื้นที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม จึงได้แกะรอยตามจากกล้อง CCTV เส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี จนล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ที่บ้านหลังหนึ่งใน หมู่บ้านสะพานลาว หมู่ 5 ต.สหกรณ์นิคม อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ทราบชื่อต่อมา คือ นายวิรัตน์ มีนุช อายุ 32 ปี พร้อมของกลางเป็น อาวุธปืน ลูกโม่ .38 ลูกกระสุน เสื้อที่ใช้ก่อเหตุ หมวกกันน็อก รองเท้าแตะ รถจักรยานยนต์จำนวน 3 คัน รถยนต์เก๋งสีแดง 1 คัน สร้อยคอทองคำ จำนวน 1 เส้น พระเลี่ยมทองหลวงปู่หลิว 1 องค์ รถใช้หลบหนี จำนวน 1คัน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส

สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าต้องการชิงทรัพย์ สร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทอง เท่านั้น เพราะเห็นว่า ผู้เสียหายใส่ทองจึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งตอนแรกจะไปชิงทรัพย์ที่จุดอื่น แต่ขี่รถมาดูที่ร้านค้าเห็นใส่ทอง จึงก่อเหตุ โดยทำทีมาสั่งน้ำอัดลม จังหวะที่เจ้าของร้านหันไปหยิบน้ำแข็ง ก็ชักปืนมายิงใส่ทั้งสองคน ทันที แล้วชิงสร้อยคอทองคำไป

Advertisement

เวลา 15.30 น. ได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณร้านชำดังกล่าว โดยมีตำรวจ ชุดสืบสวน บก.สส.ภาค 7 ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ชุดสืบสวน สภ.บางตาเถร เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเสมอกันสุพรรณบุรี รวมกว่า 50 นาย ท่ามกลางชาวบ้านที่มายืนรอตะโกนด่าสาปแช่งที่ลงมืออย่างเหี้ยมโหด และอุกอาจ กว่า 300 คน เพราะผู้ตายและภรรยาเป็นคนดี ขยันทำมาหากิน ส่วนบรรดาญาติและครอบครัวผู้เสียหายก็ต่างมายืนรอดูหน้าคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาแค่ 10 นาที ในการทำแผน หวั่นโดนรุมประชาทันฑ์ จึงรีบนำตัวกลับไปที่สภ.บางตาเถร
ด้าน พล.ต.อ.สมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ผุ้ต้องหา ให้การรับสารภาพ ทำไปเพราะต้องการชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำ เป็นการประสงค์ต่อทรัพย์ โดยจากการตรวจสอบประวัติ พบว่า ผุ้ต้องหารายนี้มีประวัติโชกโชน ในหลายพื้นที่ หลายคดี รวมกว่า 6 คดี ทั้งคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เมื่อปี 2552 สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม ในปีเดียวกัน คดีครอบครองยาเพสติดที่ สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม ปี2556 อีก3คดี ข้อหาคดีพยายามฆ่าผู้อื่น ข้อหาวิ่งราวทรัพย์ สน.หนองแขม กทม. ข้อหาชิงทรัพย์ สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง และปี 2557 และข้อหาพยายามฆ่า ที่ สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม ซึ่งคนร้ายลงมืออย่างอุกอาจและมีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยม เป็นอันตรายต่อสังคม โดยคดีที่ทำการชิงทรัพย์ จะยิงเจ้าทรัพย์และคนใกล้ชิด ก่อนนำทรัพย์ไปทุกครั้ง
ส่วนด้านญาติ ยัง ติดใจ และเชื่อว่า คนร้ายไม่น่าจะลงมือเพียงแค่ ต้องการชิงทรัพย์เป็นแค่สร้อยคอทองคำเท่านั้น เนื่องจากดูภาพจากกล้องวงจรปิด คนร้ายลงมือเหี้ยมโหดมาก ซึ่งก็อยากให้ตำรวจทำการสอบสวนเพิ่ม ว่าต้องการแค่สร้อยทองอย่างเดียวหรือไม่ ทำไปเพราะอะไร เนื่องจากตอนนี้ ทางลูกสาว ญาติและครอบครัวก็เครียดมาก เพราะหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image