“ไซเลนท์ฮอว์ค” มฤตยูเงียบของหน่วยรบพิเศษ

จักรยานยนต์วิบากสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเข้าไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ซึ่งเข้าถึงได้ยากลำบากได้ เพราะทั้งน้ำหนักเบา, ผลิตออกมาเพื่อใช้งานสมบุกสมบัน, เร็ว, ใช้งานได้แม้ในป่า, หุบเขาแคบๆ, ตรอกซอกซอย เรื่อยไปจนถึงเส้นทางเดินเท้าขรุขระ ปัญหาเพียงอย่างเดียวของจักรยานยนต์วิบากก็คือเสียง ซึ่งดังมาก ทำให้ภารกิจที่ควรปิดลับกลายเป็นภารกิจเปิดเผยไปตั้งแต่อยู่ห่างจากเป้าหมายนับเป็นกิโลเมตรเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม สำนักงานโครงการวิจัยก้าวหน้าด้านกลาโหม (ดาร์ปา) หน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา ยังคงต้องการใช้ประโยชน์จากความคล่องตัวนี้อยู่ดี จึงเป็นที่มาของการมอบหมายให้บริษัทคู่สัญญาของกระทรวงกลาโหมวิจัยและพัฒนาจักรยานยนต์วิบากที่ “เงียบที่สุด” เท่าที่สามารถจะทำได้สำหรับหน่วยรบพิเศษของสหรัฐอเมริกา

ผลลัพธ์ที่ได้คือเจ้า “ไซเลนท์ฮอว์ค” นั่นเอง

“ไซเลนท์ฮอว์ค” เป็นผลงานการคิดค้นและพัฒนาร่วมกันระหว่างโลกอส เทคโนโลยี” ผู้ผลิตอุปกรณ์หลายอย่างให้กับกลาโหมตั้งแต่โดรนไปจนถึงเซ็นเซอร์หลายชนิด กับบริษัท “อัลทา มอเตอร์” ซึ่งชำนาญพิเศษในการผลิตจักรยานยนต์วิบากที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ที่เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญหากต้องการได้จักรยานยนต์วิบากที่เงียบมากๆ จริงๆ

Advertisement

ที่น่าสนใจก็คือไซเลนท์ฮอว์คใช้เครื่องยนต์ไฮบริด ระบายความร้อนด้วยของเหลว ดังนั้นมันสามารถใช้น้ำมันในช่วงปกติจนกว่าจะถึงตอนที่ต้องการปิดลับการมาถึงของมันจริงๆ เครื่องยนต์ไฮบริดนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้น้ำมันได้ทุกชนิด ตั้งแต่น้ำมันดีเซล เบนซิน เรื่อยไปจนถึงน้ำมัน เจพี 5, เจพี 8 ที่เป็นน้ำมันสำหรับเครื่องบินเจ็ต เพื่อให้สามารถใช้เชื้อเพลิงทุกอย่างที่หาได้ในระหว่างปฏิบัติภารกิจ ตัวแบตเตอรี่สามารถชาร์จประจุได้ด้วยตัวเอง (แม้ในยามปิดเครื่องยนต์) แถมยังใช้เป็นเครื่องชาร์จประจุให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกอย่างตั้งแต่วิทยุ จีพีเอส ไปจนถึงแท็บเล็ต

เมื่อใช้น้ำมัน “ไซเลนท์ฮอว์ค” ส่งเสียงดังราว 75 เดซิเบล หรือพอๆ กับเครื่องบดขยะกากอาหารใต้ซิงค์ แต่ถ้าใช้ไฟฟ้าความดังจะลดลงมาเหลือเพียง 55 เดซิเบลหรือพอๆ กับเสียงพูดคุยปกติทั่วไป โดยเสียงหลักๆ จะเกิดจากเสียงโซ่กับเสียงล้อบดกับพื้นผิวในยามขับขี่เท่านั้น ในขณะที่จักรยานยนต์วิบากทั่วไปจะส่งเสียงดังถึง 113 เดซิเบล

อเล็กซ์ ดัซวิลล์ หัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนาไซเลนท์ฮอว์ค บอกว่า มันจะเงียบลงได้อีกถ้าเปลี่ยนโซ่เป็นสายพาน แต่สายพานเหมาะกับการใช้งานในบางลักษณะพื้นผิวเช่นทะเลทรายเท่านั้น

Advertisement

ดัซวิลล์บอกว่า ในการทดลองในสภาพป่าจริง มันสามารถมาถึงด้านหลังเขาได้โดยไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image