สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน แพทย์ที่ให้การรักษาตัวนายอ็อตโต วอร์มเบียร์ นักศึกษาชาวอเมริกันวัย 22 ปี ที่เกาหลีเหนือเพิ่งปล่อยตัวออกมาและยังอยู่ในอาการโคม่า เปิดเผยว่า สมองของนายวอร์มเบียร์ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง โดยเนื้อเยื่อในสมองถูกทำลายทุกส่วน แต่ไม่มีร่องรอยของบาดแผลตามร่างกาย และผลการตรวจของแพทย์ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าเหตุใดสมองของนายวอร์มเบียร์จึงได้รับความเสียหาย
โดยทีมแพทย์จากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยสาธารณสุขซินซินเนติ สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า นายวอร์มเบียร์สามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง แต่สภาวะของประสาทอยู่ในสภาวะที่เรียกว่า “สภาพผักเรื้อรัง” ซึ่งนายแพทย์แดเนียล แคนเทอร์ นักประสาทวิทยา เปิดเผยว่า นายวอร์มเบียร์ลืมตาได้และกะพริบตาได้ แต่ไม่มีการส่งสัญญาณว่าเข้าใจในสิ่งที่พูด ไม่ตอบสนองต่อคำสั่งหรือรับรู้ต่อสิ่งรอบข้าง
ทีมแพทย์ที่ให้การรักษาระบุด้วยว่าการบาดเจ็บอย่างรุนแรงของสมองของนายวอร์มเบียร์น่าจะมาจากการหยุดหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตไม่ทำงาน ทำให้ไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงสมอง แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเช่นนั้น และไม่พบว่ามีการติดเชื้อจากอาหารเป็นพิษ เหมือนกับที่ทางการเกาหลีเหนือแจ้งมาว่านายวอร์มเบียร์อาหารเป็นพิษจนทำให้อยู่ในอาการโคม่า
ด้านนายเฟรด วอร์มเบียร์ บิดาของนายอ็อตโต วอร์มเบียร์ ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาลเกาหลีเหนือภายใต้การนำของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่ทำให้ครอบครัวตกอยู่ในความมืดมิด โดยไม่ยอมเปิดเผยอาการป่วยที่แท้จริงและปล่อยไว้โดยไม่ยอมให้การรักษาเป็นเวลานาน และแม้ว่าใครจะเชื่อเรื่องที่เกาหลีเหนือบอกว่าลูกชายของตนป่วยเป็นอาหารเป็นพิษและกินยานอนหลับ จึงทำให้อยู่ในอาการโคม่า แต่ตนไม่เชื่อเรื่องดังกล่าว
