เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ทางศูนย์บริการประชาชนทำเนียบรัฐบาล ได้เริ่มเปิดจุดตั้งโต๊ะให้ประชาชนลงมาทะเบียนตอบคำถาม 4 ข้อของนายกรัฐมนตรี เป็นวันแรก ที่บริเวณโซน C ในตลาดของผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการตอบคำถาม 4 ข้อของนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปจำนวนประชาชนที่เข้ามาแสดงความเห็น ต่อ 4 คำถามของนายกรัฐมนตรี ผ่านสายด่วน 1111 จุด ตั้งแต่วันที่ 12 ถึงวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา มีจำนวน 87 คน โดยส่วนใหญ่คิดว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะไม่ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ซึ่งหากไม่ได้ ก็ขอให้นายกรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ดำรงตำแหน่งต่อไป เพื่อจะได้บริหารงานและปฏิรูปประเทศให้แล้วเสร็จ และขอให้มีการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมาภิบาลให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง
สำหรับคำถาม การเลือกตั้งเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย แต่การเลือกตั้งอย่างเดียวไม่คำนึงถึง เรื่องอนาคตของประเทศ และเรื่องอื่น ๆ เช่น ประเทศชาติจะมียุทธศาสตร์และการปฏิรูปหรือไม่นั้นถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ประชาชนส่วนใหญ่ เห็นว่า ไม่ถูกต้อง และคำถาม ว่าคิดว่ากลุ่มนักการเมือง ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในทุกกรณี ควรจะมีโอกาสเข้ามาสู่ การเลือกตั้งอีกหรือไม่ หากเข้ามาได้อีก แล้วจะให้ใครแก้ไข และแก้ไขด้วยวิธีอะไร ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ควรเข้ามาสู่การเลือกตั้งอีก ทั้งนี้ยังมีข้อเสนอแนะ อาทิ ไม่เปิดโอกาสหรือตัดสิทธินักการเมืองที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมลงรับสมัครการเลือกตั้งหรือเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองตลอดไป ไม่ควรให้มีการเลือกตั้งจนกว่านายกรัฐมนตรีจะปฏิรูปประเทศในทุกๆ ด้านให้แล้วเสร็จ และขอให้นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่ง เพื่อบริหารประเทศต่อไป ทั้งนี้ยังมีประชาชน แสดงความเห็นผ่านช่องทางสายด่วนของรัฐบาล โทร.1111 ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคมถึงวันที่ 14 มิถุนายน มีจำนวน 280 คน
นายสมพาศ นิลพันธ์ รองปลัดประจำสำนักนายกร้ฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยศูนย์บริการประชาชนได้กำหนดให้จุดบริการประชาชน 1111 ทำเนียบรัฐบาล (สำนักงาน ก.พ. )เป็นสถานที่รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน โดยเริ่มดำเนินการมาแล้วตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน เวลา 08.30 – 16.30 น. เป็นต้นมา ซึ่งผู้แสดงความคิดเห็นต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมทั้งกรอกข้อมูลหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก และรายการอื่น ๆ ตามแบบฟอร์มที่กำหนดพร้อมลงลายมือชื่อผู้แสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ยังใช้ช่องทางสายด่วนของรัฐบาล 1111 เป็นช่องทางการรับฟังความคิดเห็น
