The Mummy บทประเดิมของจักรวาล Dark Universe

The Mummy บทประเดิมของจักรวาล Dark Universe

The Mummy บทประเดิมของจักรวาล Dark Universe

เคยสังเกตไหม ในบรรดาหนังอสุรกายผีฝรั่ง แดร็กคูล่า แวมไพร์ แฟรงเกนสไตน์ ซอมบี้ และมัมมี่ เรื่องเกี่ยวกับมัมมี่ถูกสร้างเป็นหนังมากที่สุด มีประมาณ 170 กว่าเรื่อง นับจากหนังมัมมี่เรื่องแรกที่สร้างในปี 1899 โดย จอร์จ เมลี เจ้าพ่อหนังสยองขวัญยุคนั้น ชื่อเรื่อง Cleopatra’s Tomb เป็นเรื่องเกี่ยวกับมัมมี่คลีโอพัตรา

ความนิยมสร้างหนังมัมมี่อาจเป็นเพราะสร้างออกมาแล้วดูขลัง เห็นภาพความรุ่งเรืองของอารยธรรมอียิปต์ยุคโบราณ ความเชื่อเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย ความลี้ลับในทะเลทราย พิรามิด สฟริงซ์ เทพอนูบิสที่สวมหน้ากากหมาใน เหล่านี้ล้วนเป็นเสน่ห์ ที่ทำให้หนังมัมมี่ถูกนำมาสร้างครั้งแล้วครั้งเล่า

ค่ายยูนิเวอร์แซลสร้างหนังมัมมี่ครั้งแรกชื่อ The Mummy (1982) ได้ดาราดังสมัยนั้น บอริส คาร์ลอฟ มารับบท อิมโฮเทป ซึ่งเป็นเรื่องราวเดียวกันกับ The Mummy (1999) ที่ยูนิเวอร์แซลนำกลับมาสร้างอีกครั้ง มีดารานำคือ เบรนแดน เฟรเซอร์ และ อาร์โนลด์ วอสลู รับบทอิมโฮเทบ ทุนสร้างแค่ 80 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ แต่หนังกวาดรายได้ไปกว่า 400 ล้านเหรียญ

มาคราวนี้เมื่อค่ายมาร์เวลและดีซีคอมิกส์ต่างสร้างหนังจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ของค่ายตัวเองออกมาประชันกัน (มาร์เวล มี ไอออนแมน ธอร์ กัปตันอเมริกา สไปร์เดอร์แมน ฯลฯ DC มีซูเปอร์แมน แบทแมน วันเดอร์วูแมน) ยูนิเวอร์แซลในฐานะที่มีตัวละครในค่ายเป็นอสุรกายหรือตัวประหลาดคลาสสิค เช่น มัมมี่ แฟรงเกนสไตน์ มนุษย์ล่องหน มนุษย์หมาป่า ก็น่าจะสร้างจักรวาลหนังตัวประหลาด Dark Universe ขึ้นมาบ้าง

Advertisement

The Mummy จึงเป็นหนังปฐมบทของจักรวาลหนังตัวประหลาดหรืออสุรกายของ Dark Universe และปูทางไปสู่หนังเรื่องอื่นๆ ที่จะตามมา เช่น มนุษย์ล่องหน แฟรงเกนสไตน์ ที่นัยว่าวางตัวนักแสดงไว้แล้ว ในหนัง The Mummy จะมี Easter Egg เพื่อเป็นหมากให้ตามหาเรื่องราวของเหล่าตัวประหลาดที่ Dark Universe จะสร้างต่อไป

หนังเล่าเรื่องเจ้าหญิงอียิปต์ยุคโบราณนามอาร์มาเนท (โซเฟีย โบเทลลา) ที่ถูกทำเป็นมัมมี่ทั้งเป็นอันเนื่องมาจากความผิดที่เธอทำสัญญากับเทพเจ้าแห่งความตาย (เซ็ท) ในการฆ่าพ่อและน้องชายต่างมารดา เพื่อขึ้นครองอียิปต์ ร่างของเธอถูกฝังกลางทะเลทรายหลายพันปี

นิค มอร์ตัน (ทอม ครูซ) ทหารนอกแถวที่ชอบขโมยทรัพย์สินมีค่าจากสุสานโบราณไปขายในตลาดมืด ค้นพบสถานที่จองจำอาร์มาเนทโดยบังเอิญ และขนย้ายโลงเธอกลับมากรุงลอนดอน โดยไม่รู้ว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการปลดปล่อยอาร์มาเนทให้ออกชำระแค้นที่เธอถูกฝังทั้งเป็นและถูกจองจำนับห้าพันปี

Advertisement

การดีไซน์อาร์มาเนทให้มีลูกตาดำข้างละสองดวงเป็นความคิดที่เก๋ ยามกล้องโคลสอัฟดวงตาเธอ ดูทะมึนโหดร้ายน่าสะพรึง อักขระที่ปรากฏบนใบหน้าและร่างกายเธอดูขลัง (ข่าวว่าต้องใช้เวลาเมคอัฟหน้านาน 3-5 ชั่วโมงต่อวัน) เป็นปีศาจที่มีฤทธิ์เดชไม่ใช่น้อย ฉากพายุทะเลทรายถล่มลอนดอนของเธอน่าดู (น่าเสียดายที่เผยมุขนี้ออกมาทั้งหมดในหนังตัวอย่าง ทำให้ความตื่นตาตื่นใจน้อยลง)

และชะรอยเธอจะเป็นพวกท่าดีทีเหลว เพราะจู่ๆ เธอกลับเสียท่าให้สมุนของดร.เจคเกิลเอาง่ายๆ ส่วนสมุนของเธอเองที่เป็นมัมมี่ฝังอยู่กลางกรุงลอนดอน ดูๆ ไปกลับคล้ายซอมบี้ในหนัง The Walking Dead ซะอย่างงั้น

The Mummy ภาคนี้ไม่ใช่หนังผจญภัย เป็นหนังแอคชั่นไซไฟที่อีธัน ฮันท์ เอ๊ย! ไม่ใช่ ทอม ครูซ มารับภารกิจที่จะต้องต่อกรกับมัมมี่แทนที่จะต่อสู้กับองค์กรลับแบบหนัง Mission Impossible เป็นหนังที่ดูเพลินน่าติดตามแต่มันไปไม่สุด ขาดเสน่ห์ของหนังมัมมี่แบบเดิมๆ

ความสนุกประมาณหนัง The Great Wall ที่ถ้าชอบเรื่องนั้น ก็จะชอบเรื่องนี้ CG อลังการ น่าดูและ ทำให้หนังน่าสนใจมากขึ้น แต่ก็มีคนค่อนขอดว่า ทุนสร้าง 125 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐนี้น่าจะหมดไปกับ CG และค่าตัวทอม ครูซ

The Mummy เป็นหนังเรื่องแรกของจักรวาล Dark Universe ไปช่วยกันดูหน่อยเถอะ เสียดายว่าถ้ารายได้ไม่เข้าเป้า แผนที่วางไว้ว่าเรื่องต่อไปจอห์นนี่ เดปป์ จะรับบท มนุษย์ล่องหน และฮาเวียร์ บาร์เด็ม (กัปตัน ซาลาซาร์ จาก Pirates of the Caribbean 5) เป็นแฟรงเกนสไตล์ จะพลอยอดดูไปด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image