เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะทำงานสำรวจข้อมูลพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 ขอใช้ประโยชน์จากกรมป่าไม้ ท้องที่อำเภอเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งมีนายสนั่น พงษ์อักษร ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นประธาน รวมทั้งพ.อ.ถนัดพล โกศัยเสวี รองผบ.พล.ม.1 เข้าร่วมประชุมที่ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อหารือและติดตามการคืบหน้าผลการปฏิบัติการของคณะชุดสำรวจข้อมูล ที่ลงพื้นที่สำรวจราษฎรอาสาสมัคร(รอส.)และการครอบครองใช้ประโยชน์ที่ดินที่ได้รับการจัดสรรจากกองทัพภาคที่ 3 แต่ภายหลังถูกเปลี่ยนมือกระทั่งมีการก่อสร้างรีสอร์ทบ้านพักพักหรู โดยไม่ถูกกฎหมายจนเต็มพื้นที่ จนกรมป่าไม้ร่วมกับจังหวัดเพชรบูรณ์และกองพลทหารม้าที่ 1 จับมือร่วมกันแก้ไข กระทั่งมีมติให้สำรวจที่ดินในแปลงรอส. 4 ตำบลของเขาค้อ ตลอดพื้นที่นอกแปลงรอส.ที่ทหารขอใช้จากกรมป่าไม้เนื้อที่ 1.2 แสนไร่ ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน เพื่อให้กองทัพภาคที่ 3 จัดระเบียบการใช้ที่ดินในโอกาสต่อไป
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้รายงานว่า หลังจากคณะเจ้าหน้าที่ประกอบฝ่ายทหาร ป่าไม้ ตำรวจและฝ่ายปกครองได้ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม ถึงวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยพื้นที่เป้าหมายจำนวน 4,482 แปลง เนื้อที่จำนวน 32,336 ไร่ 2 งาน 44 ตารางวา ปรากฏว่าการสำรวจเสร็จสิ้นไปแล้วจำนวน 4,156 แปลง เนื้อที่ 30,399 ไร่ 44 ตารางวา คิดเป็นร้อยละ 86.12 นอกจากนี้ยังพบมีการบุกรุกเพิ่มเติมจำนวน 326 แปลง เนื้อที่ 1,937 ไร่ 2 งาน โดยตัวแทนฝ่ายทหารคาดการณ์ว่าการสำรวจพื้นที่ในแปลงรอส.จะเสร็จสิ้นในราวสัปดาห์หน้า จากนั้นทางคณะเจ้าหน้าที่จะเริ่มดำเนินการสำรวจพื้นที่นอกแปลงรอส. ซึ่งนายสนั่นและพ.อ.ถนัดพล แสดงความมั่นใจถึงการดำเนินการดังกล่าวจะเสร็จทันท่วงทีภายในกำหนดเวลา
นอกจากนี้ในที่ประชุมยังรายงานถึงการดำเนินการปิดประกาศให้ผู้ครอบครองที่ดินรอส.จำนวน 27 ราย เพื่อให้มาแสดงตนพร้อมนำหลักฐานการครอบครองยื่นแสดงแก่เจ้าหน้าที่ภายใน 30 วันซึ่งครบกำหนดไปเรียบร้อยแล้ว แต่ปรากฏว่าในจำนวนนี้มี 14 รายมาแสดงตนพร้อมนำหลักฐานมาส่งมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ ในขณะที่อีก 13 รายยังเพิกเฉยโดยไม่มีแสดงตนและส่งมอบหลักฐานแสดงการครอบครองแต่อย่างใด ทั้งนี้ในที่ประชุมได้มีมติให้มีการปิดประกาศแจ้งเตือน เพื่อให้โอกาสมาแสดงตนพร้อมนำเอกสารมาแสดงภายใน 15 วัน และหากยังเพิกเฉยก็จะให้โอกาสแจ้งเตือนเป็นครั้งที่ 3 อีก 15 วัน หากดื้อดึงเพิกเฉยก็จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนปิดการประชุมทางคณะทำงานยังสรุปถึงแนวทางดำเนินการในห้วงต่อไปด้วยว่า หลังการสำรวจพื้นที่ในแปลงรอส.แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้าแล้ว จะมีการสรุปผลการสำรวจในแปลงและแยกประเภท รอส.ที่ครอบครองและใช้ประโยชน์ทั้งที่ถูกและผิดเงื่อนไข ตามบัญชีรายชื่ออีกทั้งเก็บข้อมูลบุคคลที่ไม่ใช่รอส. ต่อมาแสดงสิทธิ์การครอบครอง เพื่อเป็นฐานข้อมูลใช้ในการแก้ไขปัญหาในระยะต่อไป ขณะเดียวกันในสัปดาห์หน้าจะมีการเริ่มสำรวจพื้นที่นอกแปลง รอส.เช่นกัน โดยใช้ภาพถ่ายทางอากาศ ประกอบกับฐานข้อมูลเดิมของป่าไม้ โดยคณะเจ้าหน้าที่วางแผนจะเข้าพื้นที่ที่มีสิ่งปลูกสร้างก่อน
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมยังสรุปถึงพื้นที่มีปัญหาจะดำเนินการสำรวจเป็นอันดับสุดท้าย อาทิ ต.ทุ่งสมอ มีการวัดแปลง สปก.เมื่อปี 2535 แต่ผู้ครอบครองและใช้ประโยชน์ในที่ดินแปลงดังกล่าว ไม่ใช่ รอส. ในขณะที่บ้านเล่าลือ, บ้านเพชรดำ, บ้านเล่าเน้ง ต.เขาค้อ เป็นหมู่บ้านชาวเขาและไม่ได้เป็นรอส.เช่นกัน นอกจากนี้หมู่บ้านป่าไม้ บ้านฟองเพชร ต.เขาค้อ, บ้านกรเพชร บ้านชื่นจิตร ต.ริมสีม่วง การจัดคนเข้าอยู่อาศัย ป่าไม้เป็นฝ่ายดำเนินการ ซึ่งทางศูนย์อำนวยการประสานงานโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก(ศอป.ลุ่มน้ำเข็ก)ไม่มีฐานข้อมูลดังกล่าว
