เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบเรื่องราวชีวิตสุดรันทดของนายนพรัตน์ จักรมา หรือน้องต๋อง อายุ 16 ปี หนุ่มนักเรียน ปวช.ปี 1 ของวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร (บ้านบ่อ) ที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิตกับความยากจน เพื่อให้ตัวเองได้เรียนหนังสือ เพื่อให้ยายมีข้าวกิน และเพื่อให้น้องชายวัย 8 เดือน มีนมดื่มนั้น ถูกเปิดเผยโดยเฟซบุ๊กชื่อว่า Sunanta Noipitak ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบน้องต๋อง หนุ่มสู้ชีวิตรายนี้ โดยสภาพบ้านของน้องต๋องที่อาศัยอยู่กับยายและน้องชายวัย 8 เดือนนั้น เป็นบ้านเก่าชำรุดทรุดโทรม พอกันแดดกันฝนได้บ้าง พื้นไม้ภายในบ้านก็ต้องค่อยๆ เดิน เพราะอาจจะหักพังลงไปได้ รอบบ้านแวดล้อมไปด้วยต้นจาก มีน้ำครำขังอยู่เป็นบ่อเกิดของโรคหลายชนิด ปลูกอยู่ในที่ดินของญาติ
น้องต๋องเล่าว่า เรียนอยู่ในระดับชั้น ปวช.ปี 1 สาขาอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 6 ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร กับนางยุพา วรรณกี้ ผู้เป็นยาย อายุ 65 ปี และ ด.ช.ภาคิน เวียงสันเทียะ อายุ 8 เดือนน้องชายต่างบิดา โดยตนหางานทำเป็นรายได้พิเศษตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เพื่อหาเงินมาไว้ใช้เรียนหนังสือและซื้อข้าวกิน ต่อมาเมื่อช่วงต้นปี แม่ได้นำน้องชายมาให้ยายเลี้ยงอีกคน จึงต้องหางานพิเศษทำเพิ่ม เพื่อหาเงินมาซื้อนมให้น้อง จึงไปรับจ้างที่ร้านขายหมูกระทะทุกวันหลังเลิกเรียน เมื่อเสร็จงานจากร้านประมาณ 4 ทุ่มก็จะกลับเข้าบ้านดูน้อง ดูยาย ทำการบ้าน แล้วก็อาบน้ำนอน พอเช้าก็จะดูแลน้อง ทำความสะอาดเสื้อผ้า อาบน้ำให้น้องก่อน จากนั้นจึงจะแต่งตัวไปโรงเรียน
ด้านยายยุพาเล่าว่า เลี้ยงดูน้องต๋องมาตั้งแต่อายุประมาณ 1 ขวบ หลังจากที่พ่อกับแม่แยกทางกัน และไม่มีใครกลับมาเหลียวแลน้องต๋องอีกเลย กระทั่งเมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว แม่ของน้องต๋องกลับมาที่บ้านอีกครั้ง หลังจากที่หายไปนานหลายปี แต่การกลับมาคราวนี้ก็ได้นำน้องชายต่างบิดาของน้องต๋องกลับมาไว้ให้เลี้ยง ซึ่งช่วงแรกก็บอกว่าจะส่งเงินค่านมมาให้ทุกเดือน แต่ส่งมาเพียง 2 ครั้งแล้วก็หายไป โทรไปหาก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก ก็ต้องเลี้ยงหลานเรื่อยมา ส่วนน้องต๋องเองก็ต้องหางานทำมากขึ้น เงินที่ตั้งใจว่าจะเก็บไว้สำหรับใช้ซื้ออุปกรณ์การเรียนก็ต้องเอามาซื้อนมให้น้อง ซึ่งน้องต้องกินนมแบบพิเศษ เพราะแพ้นมวัว จะมีราคาแพงกว่านมปกติ นับเป็นอีกหนึ่งภาระที่น้องต๋องต้องแบกรับมากขึ้น ทุกวันนี้รู้สึกสงสารหลานชายทั้งสองคนเป็นอย่างมาก นับเป็นโชคดีที่มีหลานชายอย่างน้องต๋อง ที่เป็นเด็กดี มีความประพฤติเรียบร้อย ขยันขันแข็ง ไม่เกเร ตั้งใจเล่าเรียน และมีความรับผิดชอบสูง ไม่ทิ้งน้อง ไม่ทิ้งยาย ในส่วนความตั้งใจของยายนั้น ก็อยากจะเห็นน้องต๋องเรียนให้สูงๆ ในอนาคตจะได้ไม่ลำบาก
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะช่วยเหลือนายนพรัตน์ จักรมา หรือน้องต๋อง อายุ 16 ปี พร้อมกับยายยุพา วรรณกี้ อายุ 65 ปี และเด็กชายภาคิน หรือน้องพอร์ต เวียงสันเทียะ อายุ 8 เดือน สามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 06-2461-0028 หรือโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร หมายเลข 986–1–21375–9 ชื่อนายนพรัตน์ จักรมา
