“น้องวิ” เหยื่อกระบะพุ่งชน ร่ำไห้เผยชะตากรรมแสนเศร้า ขาดพ่อ แม่ยากไร้ ความหวังสุดท้ายของครอบครัว

จากกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล เพจเฟสบุ๊คคนเมืองกาญจน์ และเพจ Baabin บ้าบิ่น ที่แชร์จากผู้ใช้เฟสบุ๊คท่านหนึ่งที่โพสต์เรื่องราวชีวิตของ ด.ญ.วรรณวิสา หรือ น้องวิ ศรีจันทร์ อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/4 โรงเรียนอนุบาลวัดลูกแกประชาชนูทิศ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนจนต้องถูกตัดขาข้างขวา จนทำให้น้องประสบปัญหาในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก ซึ่งก่อนหน้านี้น้องก็ได้สูญเสียคุณพ่อซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว จนทำให้น้องกลายเป็นความหวังสุดท้ายที่จะคอยช่วยเหลือแม่วัย 55 ปี แต่ก็กลับมาเกิดเรื่องไม่คาดคิด จนทำให้ความหวังสุดท้ายของแม่ต้องหมดไป อีกทั้งฐานะทางบ้านยากจน จนทำให้มีผู้ที่เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างตำหนิผู้ที่ขับรถยนต์ชนเด็กหญิงคนดังกล่าว ขณะที่อีกหลายคนต่างรู้สึกสงสารในชะตาชีวิตของเด็ก ที่ต้องมาพบเจอกับเรื่องน่าเศร้าแบบนี้

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังตำบลดอนขมิ้น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านของเด็กหญิงคนดังกล่าว พบว่า เป็นบ้านชั้นเดียวสร้างด้วยอิฐบล็อคแบบเรียบง่าย โดยได้พบกับ นางเสมอ ตะก้อง อายุ 55 ปี ผู้เป็นแม่ ได้กล่าวว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งทางบ้านมีฐานะยากจนจริงตามที่เป็นข่าว โดยนางเสมอได้เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2559 ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์โดยมีลูกสาวนั่งซ้อนท้าย และได้ประสบอุบัติเหตุโดยมีรถยนต์กระบะมาชน ซึ่ง ด.ญ.วรรณวิสา ศรีจันทร์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงขั้นต้องตัดขาขวาทิ้งเพื่อรักษาชีวิตไว้ โดยระหว่างการรักษาทางคู่กรณีไม่ค่อยมาสนใจ จนคดีล่วงเลยมานานถึง 6 เดือน ก็ยังไม่คืบหน้า ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของทั้งลูกสาวและแม่ ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบากมากขึ้นกว่าเดิม จิตใจของลูกสาวขณะนี้ก็ยังทำใจไม่ได้แอบร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง

Advertisement

ส่วนทางด้าน นายบรรจง ปิ่นปฐม ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลวัดลูกแกประชาชนูทิศ กล่าวถึงเด็กหญิงวรรณวิสา ศรีจันทร์ ว่าเป็นเด็กที่ขาดโอกาสเรียนจากโรงเรียนเก่ามา แต่เด็กมีผลการเรียนดีมีความตั้งใจที่จะต่อสู้ดีมาก และสามารถเข้ากับเพื่อนๆ และช่วยเหลือตัวเองได้เป็นอย่างดี เบื้องต้นทางโรงเรียนได้ให้การสนับสนุนในเรื่องค่าอาหารกลางวัน โดยให้เด็กคนดังกล่าวได้รับประทานอาหารกลางวันฟรี และได้ประสานงานไปที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อช่วยหาทุนการศึกษาให้เด็กหญิงคนดังกล่าวแล้ว

โดย เด็กหญิงวรรณวิสา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า พ่อของตนเสียชีวิตด้วยโรคตับแข็ง ขณะที่แม่ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวเพียงลำพัง โดยมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ประกอบกับฐานะทางบ้านยากจน เมื่อตนมาประสบอุบัติเหตุและยังคงต้องไปพบแพทย์อยู่เป็นประจำ จึงทำให้ครอบครัวต้องยากลำบากมากขึ้น ทั้งนี้ตนรู้สึกท้อแท้และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังมีกำลังใจยังดีอยู่ ฝากขอบคุณทุกท่านที่ให้ความช่วยเหลือและให้กำลังใจ ซึ่งช่วงหนึ่งของการให้สัมภาษณ์น้องวิได้กล่าวถึงคู่กรณีที่ขับรถชนจนตัวเองต้องกลายมาเป็นคนพิการว่า “ถ้าวันนั้นลุงไม่มาชน หนูก็คงไม่ต้องมาเป็นแบบนี้” พร้อมกับร้องไห้ออกมาด้วยความสะเทือนใจที่ต้องสูญเสียขาไปและไม่มีวันกลับมาเดินวิ่งได้เหมือนเคย

Advertisement

หากท่านใดประสงค์จะช่วยเหลือน้องวิ เพื่อเป็นทุนการศึกษาหรือเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน สามารถช่วยเหลือได้ที่ บัญชีธนาคารออมสิน ชื่อบัญชี ด.ญ.วรรณวิสา ศรีจันทร์ หมายเลขบัญชี 020-219-732-6

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image