น้องชายเมาเหล้าขาวโมโหพี่เพียงแค่เงิน 100 บาท ค่าตัดไม้ไผ่ใช้ปืนแก๊ปยิงบาดเจ็บ

เมื่อเวลา 20.30 น. เมื่อคืนวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ร.ต.อ.ธนยศ ธีรนิมมาน ร้อยเวร (สอบสวน) สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.ประจันตคาม มีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนแก๊ปได้รับบาดเจ็บ ญาตินำส่งรักษา สถานที่เกิดเหตุอยู่ห่างถนนสายสุวรรณศร หรือสาย 33 (ปราจีนบุรี-ประจันตคาม) ประมาณ 500 เมตร หลังโรงเรียนบ้านม่วง หมู่ 19 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และเดินทางไปสอบสวนที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.ประจันตคาม พบผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่อุ้งมือขวาทะลุหลังมือทราบชื่อคือ นายหนูแดง น้ำทรัพย์ อายุ 55 ปี เลขที่ 101 หมู่ 19 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ต่อมาได้ส่งรักษาต่อที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร

พ.ต.อ.วันชัย พิทักษ์ตันสกุล ผกก.สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ได้มีผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนแก๊ปยิงกันบาดเจ็บ ผู้ก่อเหตุเป็นพี่กับน้องแท้ๆ ไปตัดไม้ไผ่ เพื่อทำเฟอร์นิเจอร์ส่งขาย แต่ตกลงเรื่องเงินไม่ได้ โดยราคาว่าจ้างตัดไม้ไผ่ ไม่กี่พันบาท หักค่าขนส่งแล้วเหลือ 100 บาท ตกลงกันไม่ได้ น้องชายคือนายประเสริฐ น้ำทรัพย์ อายุ 48 ปี โมโหจึงเอาปืนแก๊ป มายิงกระสุนถูกอุ้งมือขวาพี่ชายคือนายหนูแดง น้ำทรัพย์ ได้รับบาดเจ็บ โดยขณะเกิดเหตุน้องชายมีการดื่มสุราเป็นเหล้าขาว คาดว่าเมาและโมโหจนขาดสติ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ได้มาพบผู้บาดเจ็บนายหนูแดง น้ำทรัพย์ อายุ 55 ปี ที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร นายหนูแดงกล่าวว่า ไปตัดไม้ไผ่เพื่อเอามาทำเฟอร์นิเจอร์, แคร่, ซุ้มไม้ไผ่ ได้กำไรวันละประมาณ 400-500 บาท ไปพร้อมกับน้องชายแท้ๆ หลังจากตัดไม้ไผ่เรียบร้อย และจ่ายเงินค่าจ้างรถที่ขนส่งได้หักค่ารถออก จากเงินในส่วนของน้องชายไป 100 บาท แต่น้องชายไม่เข้าใจว่าเงินหายไปไหน ชี้แจงอย่างไรก็ไม่ฟังเหตุผล จึงโมโหและได้มีปากเสียงกัน ก่อนที่น้องชายจะกลับไปบ้านพัก คว้าปืนแก๊ปมาจ่อยิง แต่ตนได้เอามือปัดปลายกระบอกปืน กระสุนจึงถูกที่อุ้งมือขวาจนทะลุดังกล่าว หลังก่อเหตุน้องชายได้ขับขี่รถ จยย.อาศัยความมืดหลบหนีไปมุ่งหน้าไปตามถนนสายสุวรรณศร

โดยหลังสอบสวน เจ้าหน้าที่สืบสวนพร้อม ร้อยเวร (สอบสวน) ได้เดินทาง ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว แต่ไม่พบมือปืนผู้เป็นน้องชาย ที่หลบหนีไปหลังเกิดเหตุ ได้วิทยุสกัดตามเส้นทางต่างๆ ยังไม่พบร่องรอยแต่อย่างใด ซึ่งจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายอย่างเร่งด่วน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image