เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ชาวฝรั่งเศสเดินทางไปยังคูหาเลือกตั้งอีกครั้ง เพื่อลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งทั่วไปรอบ 2 ที่จะเป็นการชี้ขาดผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากเขตเลือกตั้งต่างๆ ทั่้วประเทศ ซึ่งทุกฝ่ายคาดหมายกันว่า จะส่งผลให้พรรคการเมืองใหม่เอี่ยมอ่องอย่างพรรค รีพับลิกัน ออน เดอะ มูฟ (อาร์อีเอ็ม) ของประธานาธิบดี เอ็มมานูแอล มาครง ได้ครองเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภา โดยน่าจะได้ที่นั่งส.ส.ระหว่าง 400-470 ที่นั่งจากจำนวนทั้งหมด 577 ที่นั่ง เกินกว่า 2 ใน 3 ด้วยซ้ำไป
สภาใหม่ของฝรั่งเศสจะเป็นส.ส.รุ่นใหม่ภายใต้การนำของมาครงเกือบทั้งหมด นอกจากจะหนุ่มสาวมากขึ้นแล้ว ยังมีสัดส่วนสตรีมากขึ้น มีความหลากหลายทางเชื้อชาติมากขึ้น ซึ่งทำให้นักสังเกตการณ์เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งนี้มีขนาดใหญ่โตมากที่สุดนับตั้งแต่การก่อตั้งสาธารณรัฐที่ 5 ของฝรั่งเศสขึ้นมาในปี 2501 หรืออาจจะเทียบเท่ากับจุดกำเนิดประชาธิปไตยในฝรั่งเศสอีกครั้งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทีเดียว
ทั้งนี้ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเตรียมการดำเนินการปฏิรูป เปลี่ยนแปลงประเทศครั้งใหญ่หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งครั้งนี้ ตั้งแต่การปฏิรูปตลาดแรงงาน, ออกมาตรการเพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่นกับสหภาพยุโรปให้มากขึ้น และยกเครื่องระบบประกันสังคมของประเทศใหม่ทั้งหมด โดยพร้อมเจรจากับสหภาพแรงงานในฝรั่งเศสเพื่อจัดตั้งระบบรับประกันความมั่นคงในสังคมแบบยืดหยุ่น ตามแนวทางของประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย เป็นต้น
