จากกรณีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจคุมตัวนายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62 ปี อดีตวิศวกรไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ผู้ต้องหาก่อเหตุวางระเบิด รพ.พระมงกุฎเกล้า จากการสอบสวนรับสารภาพว่าก่อเหตุระเบิดอีก 5 จุดนั้น
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน รายงานข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคงแจ้งว่า จากการสอบปากคำนายวัฒนามีการสอบถามว่าเหตุใดจึงเลือกลงมือก่อเหตุ ห้องวงษ์สุวรรณ เจ้าตัวอ้างว่าเป็นมุมที่เหมาะกับการก่อเหตุพอดี อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ นอกจากนี้ เมื่อถามว่าทำไมเลือกนำระเบิดไปติดผนัง แทนที่จะวางบนโต๊ะหรือบนพื้น นายวัฒนาบอกว่า กลัวว่าถ้านำไปวางไว้จะมีคนมาเก็บไป จึงเลือกติดไว้ที่ผนัง
รายงานข่าวแจ้งว่า ส่วนอุปกรณ์ในการประกอบระเบิด พบว่าส่วนหนึ่งหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป โดยนายวัฒนา ซื้อจากหลายร้านทั้งร้านเล็กๆ และร้านใหญ่ติดแอร์มีหลายสาขาย่านบ้านหม้อ แต่เจ้าหน้าที่พบว่ามีชิ้นส่วนประกอบระเบิดอันหนึ่งที่นายวัฒนาใช้และไม่สามารถหาซื้อได้ในท้องตลาด คือ ตัวรีซิสเตอร์ ที่ประกอบอยู่ในแผงวงจรระเบิด โดยเจ้าหน้าที่สงสัยว่าอาจนำมาจากการไฟฟ้าเมื่อครั้งยังรับราชการอยู่ เนื่องจากเกรดดีและมีความปลอดภัยสูง เพราะนายวัฒนาจะประกอบระเบิดและตั้งเวลาไปจากที่บ้านพักย่านบางเขนเลย ฉะนั้นระหว่างเดินทางต้องมั่นใจว่าจะไม่เกิดระเบิดขึ้น หากใช้อุปกรณ์ที่หาซื้อได้ทั่วไปจะมีความปลอดภัยน้อยกว่า
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตด้วยว่านายวัฒนา มักจะตอบแบบเดิมๆ คล้ายกับท่องมาว่าถ้าถูกจับกุมจะพูดอย่างไร
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า จากการสะกดรอยตามนายวัฒนาก่อนจับกุมประมาณ 1 สัปดาห์ พบว่าเดินทางไป รพ.ศิริราช ทั้งๆ ที่ไม่ใช่คนไข้ของโรงพยาบาล และไม่ได้ไปเยี่ยมผู้ป่วยแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงรีบชิงจับกุมตัวก่อน เช่นเดียวกับที่รพ.พระมงกุฎเกล้า นายวัฒนาก็ไม่ใช่คนไข้และไม่ได้ไปเยี่ยมผู้ป่วยเช่นกัน ส่วนที่ รพ.รามาธิบดี จากการตรวจสอบพบว่านายวัฒนา แค่เดินทางผ่านเท่านั้น
