เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดข้อพิพาทที่ดินเพื่ออยู่อาศัยของนายพิชัย จันทร์ทะวงศ์ อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 185 บ้านห้วยบง หมู่ 4 ต.ท่าสาย อ.เมือง จ.เชียงราย กับที่นาทำกินของนางบัวคำ ยะโย อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 11 หมู่บ้านเดียวกัน ที่มีเขตทับซ้อนกันจนทำให้เกิดการโต้เถียงระหว่างนายพินิจ จันทร์ทะวงศ์ อายุ 36 ปี บุตรชายนายพิชัยกับนางบัวคำ เมื่อเย็นวันที่ 12 มิ.ย.60 ที่ผ่านมา และในเวลาต่อมานายพินิจได้แขวนคอตายลงพร้อมเขียนข้อความขอความยุติธรรมเรื่องการออกโฉนดที่ไม่เป็นธรรมพร้อมสาปแช่งไปถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ลงในเสื้อกระสอบปุ๋ยที่สวมใส่ในวันตายด้วย
ล่าสุดทางนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ นายอำเภอเมืองเชียงราย ได้ยื่นมือเข้ามาไกล่เกลี่ยในเรื่องดังกล่าวด้วยการเชิญนายเชาวลิต สามห้วย เจ้าพนักงานที่ดินเชียงรายพร้อมด้วยคู่กรณีนายพิชัยและนางบัวคำมายังที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงรายแห่งใหม่เพื่อพูดคุยและหาข้อยุติ โดยได้มีการนำหลักฐานโฉนดที่ดินประกอบภาพถ่ายทางอากาศมาร่วมพิจารณาหาข้อเท็จจริงร่วมกัน
ในการตรวจสอบปรากฎว่าที่ดินของนางบัวคำที่เป็นมรดกตกทอดมาจากนายจันทร์ผู้เป็นบิดาที่เสียชีวิตลงนั้นมีการทำกินมานานกว่า 70 ปี ได้มีการออกเป็นเอกสารสิทธิที่ดินทำกิน (ส.ป.ก.) ตั้งแต่ พ.ศ.2524 ในขณะที่นายพิชัยได้ซื้อที่ดินต่อมือมาจากผู้อื่นอีกช่วงหนึ่งเพราะเดิมที่นายพิชัย พื้นเพเป็นคนบ้านดู่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง แต่เข้ามาอยู่อาศัยในปี พ.ศ.2524 และเมื่อนางบัวคำได้รับมรดก จึงต้องมีการรังวัดที่ดินเพื่อออกโฉนดที่ดินใหม่โดยได้ยึดตามเอกสาร ส.ป.ก.ตัวเดิมเป็นที่ตั้ง
กระทั่งทางสำนักงานที่ดินจึงได้ออกรังวัดเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา และได้ออกโฉนดที่ดินให้แก่นางนางบัวคำ ในเวลาต่อมาจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งพบว่าแนวเขตที่ดินตามเอกสารสิทธินั้นเข้าไปในรั้วที่บ้านของนายพิชัยประมาณ 0.7 ตารางวา แต่ที่ผ่านมานางบัวคำได้อะลุ่มอล่วยให้นายพิชัยกับครอบครัวได้อาศัยอยู่เรื่อยมา แต่ต่อมานางบัวคำต้องการปรับที่นาให้มีแนวคันนาที่ตรงตามเอกสารโฉนด จึงได้เดินทางไปขอให้นายพิชัยรื้อรั้วบ้านออกเพื่อปรับที่แต่ไปพบกับนายพินิจเข้าจึงเกิดปากเสียง และลงเอยด้วยเหตุการณ์อันเศร้าสลดดังกล่าว
นายประเสริฐกล่าวว่า หลังจากทราบข่าวถึงเรื่องการเกิดขอพิพาทในที่ดินของนายพิชัยและนางบัวคำ จนลงเอยด้วยความตายของนายพินิจ ตนเองรู้สึกไม่สบายใจ จึงหารือกับนายเชาวลิต เจ้าพนักงานที่ดินเชียงรายเพื่อนำคู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้นั่งคุยกันเพื่อหาข้อยุติในเรื่องดังกล่าว เพราะทั้งสองฝ่ายก็ไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย ซึ่งในที่สุดปัญหาทุกอย่างก็ได้ยุติลงเมื่อนางบัวคำยอมเสียสละที่นาซึ่งปัจจุบันเข้าไปอยู่ในเขตรั้วบ้านของนายพิชัยให้กับนายพิชัย โดยทางสำนักงานที่ดินเชียงรายจะทำการออกรังวัดที่ดินให้ใหม่และออกโฉนดที่ดินให้กับทั้งสองไว้เป็นหลักฐานต่อไป
ด้านนางบัวคำกล่าวด้วยใบหน้าเศร้าหมองว่า เมื่อทราบข่าวรู้สึกเสียใจไม่สบายใจกับการจากไปของนายพินิจ เพราะนายพินิจเป็นคนดีและขยัน อยากจะฝากบอกถึงดวงวิญญาณผู้ตายและรับรู้ว่า “แม่ได้ยกที่ดินให้แล้ว แม่ขอให้ไปสู่สุคติ”
ขณะที่นายพิชัยกล่าวว่า ตนเองขอขอบพระคุณในการเสียสละของนางบัวคำและครอบครัวที่มอบที่ดินที่เกิดข้อพิพาทให้กับตนและขอให้ลูกชายคือนายพินิจ ไม่ต้องหวงขอให้ไปสู่พบหน้าด้วยความสบายใจ
ด้านนายเชาวลิตกล่าวว่า ที่ผ่านมาในกรณีข้อพิพาทในเรื่องที่ดินทำกินของนายพิชัยกับนางบัวคำ ได้มีการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงรายมาแล้ว สำนักงานที่ดินได้เข้ามาตรวจสอบหลักฐานตามเอกสารและรูปถ่าย พบว่าการออกโฉนดที่ดินทำกินให้กับนางบัวคำถูกต้องแล้ว ทั้งนายพิชัยได้เซ็นรับทราบจึงเป็นอื่นไปไม่ได้ ในวันนี้ก็ถือว่าทุกอย่างได้ข้อยุติ ถึงแม้ทุกฝ่ายไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสียก็ตาม ซึ่งหากประชาชนสงสัยในเรื่องแนวเขตที่ดินทำกินก็สามารถมาสอบถามได้จากสำนักงานที่ดินใกล้บ้านคุณเพื่อให้เกิดความชัดเจน และหากมีการคัดคานโต้แย้งเราก็ดำเนินการตามขบวนการของสำนักงานที่ดิน ด้วยการจัดทำรูปแผนที่ขึ้นมาเพื่อหาความถูกต้องและให้คู่กรณีมีการพูดคุยตกลงกัน หากตกลงกันได้ก็จบด้วยดี แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ก็เป็นหน้าที่ของศาลที่จะพิจารณาต่อไป
