สภาผู้ส่งออกฯเผยไตรมาส 3 เจอแน่ผลกระทบจากเลือกตั้งอังกฤษ นำร่อง 6 กลุ่มสินค้า

นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สรท.กำลังจับตามองผลกระทบจากผลการเลือกตั้งของสหราชอาณาจักร ซึ่งพรรคอนุรักษนิยมไม่สามารถครองเสียงข้างมาก จึงต้องจัดตั้งรัฐบาลผสม ซึ่งเบื้องต้น นอกจากจะส่งผลโดยตรงต่อการเดินหน้านโยบายการผลักดันให้สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป หรือเบร็กซิท (BREXIT) ยังส่งผลให้ค่าเงินปอนด์สเตอริงอ่อนค่าลงในทันที ทำให้ในระยะสั้น จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกสินค้าสำหรับการอุปโภคบริโภคโดยตรงในระดับปานกลางถึงมาก เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์สเตอริงในขณะที่สถานการณ์ค่าเงินเฟ้อรุนแรงมากขึ้น จากระดับ 2.7% ในเดือนเมษายน เป็น 2.9% ในเดือนพฤษภาคม จะเป็นแรงฉุดให้การบริโภคของผู้บริโภคลดต่ำลง

“อาจจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าการส่งออกสินค้าในกลุ่ม ไก่แปรรูป อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเครื่องนุ่งห่ม ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีนี้เป็นต้นไป เนื่องจากผู้นำเข้าจะหันไปสั่งซื้อสินค้าจากแหล่งผลิตที่มีต้นทุนต่ำกว่าเข้ามาทดแทนสินค้าไทย และอังกฤษเองก็หันไปใช้นโยบายเน้นการผลิตภายในประเทศให้มากขึ้น”

นางสาวกัณญภัคกล่าวว่า เนื่องจากสหราชอาณาจักรมีสัดส่วนการค้าระหว่างประเทศกับภาคพื้นยุโรปมากถึงประมาณ 40% และสินค้าหลายรายการนำเข้าจากทั่วโลก เพื่อประกอบหรือผลิตเป็นสินค้าเพื่อส่งขายเข้ากลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ดังนั้น การออกจากเบร็กซิท จะทำให้สินค้าจากสหราชอาณาจักรมีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นจากอัตราภาษีและพิธีการศุลกากรที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเทียบเท่าประเทศนอกสหภาพยุโรป ซึ่งทำให้สินค้าของสหราชอาณาจักรไม่สามารถแข่งขันได้  และจะมีผลกระทบต่อเนื่องถึงการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมจากประเทศไทยไปยังสหราชอาณาจักร

ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าที่อาจได้รับผลกระทบในระดับน้อยถึงปานกลาง ประกอบด้วย อากาศยาน ยานอวกาศ และส่วนประกอบรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบแผงวงจรไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องจักรกล และส่วนประกอบเหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น

Advertisement

“สรท.จึงเชื่อมั่นว่าสหราชอาณาจักรไม่สามารถตัดขาดสหภาพยุโรปได้ โดยต้องหาทางเจรจาเพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ด้านศุลกากรเช่นเดิม และจะพยายามให้การเจรจาเพื่อออกจากสหภาพยุโรปเป็นไปในลักษณะ Soft BREXIT”

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นสำคัญที่น่าจับตามองในระยะยาว คือ อังกฤษถือเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของสหภาพยุโรป ดังนั้น ผลกระทบจากเบร็กซิท ต่อความมั่นคงทางด้านการเงินภายใน จึงเป็นประเด็นท้าทายที่สหภาพยุโรปต้องขบคิดว่าจะพัฒนาศูนย์กลางทางการเงินมาทดแทน และมีสถาบันทางการเงินและสำนักหักบัญชี (Clearing House) ที่มีมาตรฐานและสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดการเงินระหว่างประเทศได้อย่างไร ซึ่งจะส่งผลต่อรูปแบบการเคลื่อนย้ายเงินทุนในตลาดทุนและตลาดเงินระหว่างประเทศของสหภาพยุโรปในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image