น.ส.อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพบว่ากลุ่มลูกค้าผู้หญิงอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป เริ่มหันมาซื้อเพชรเพื่อลงทุนมากขึ้น และสามีหรือคู่ชีวิตเริ่มเห็นด้วยกับการซื้อเพชรจากเดิมที่จะชอบแนะนำให้ภรรยาซื้อทองคำและหุ้นเพื่อลงทุน เพราะนอกจากจะซื้อเพื่อนำมาเป็นเครื่องประดับและเก็บรักษาได้ง่ายไม่ด้อยค่าแล้ว ยังสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 7-10% ขึ้นอยู่กับสี ความสะอาด การเจียระไน กะรัตของเพชรด้วย โดยเพชรที่ซื้อเพื่อการลงทุนจะต้องมีน้ำหนักตั้งแต่ 30 สตางค์ขึ้นไป เพราะจะได้รับการการันตีจากทางร้าน และเพชรที่ราคาปรับเพิ่มส่วนใหญ่จะเป็นเพชรในรูปแบบที่ชาวจีนชื่นชอบ
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมกำลังซื้อเครื่องประดับเพชรในช่วงที่ผ่านมาพบว่าปริมาณการขายในร้านค้าต่างจังหวัดมีมากกว่าร้านค้าในกรุงเทพมหานคร แต่ยอดซื้อต่อใบเสร็จในกรุงเทพมหานครยังสูงกว่า โดยต่างจังหวัดอยู่ที่ 3-4 หมื่นบาทต่อใบเสร็จ และกรุงเทพมหานครอยู่ที่ 5 หมื่นบาทต่อใบเสร็จ ทั้งปีคาดว่าปริมาณการซื้อจะเพิ่มขึ้นแต่ยอดใช้จ่ายต่อบิลจะยังทรงตัวเมื่อเทียบกับ 5 เดือนแรกของปี
ทั้งนี้ คาดว่ารายได้ของบริษัทในปี 2560 จะเติบโต 10% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,383.45 ล้านบาท ตั้งเป้างบการตลาดที่ 5-7% ของรายได้รวม โดยครึ่งปีหลังจะเน้นทำกิจกรรมการตลาด รุกตลาดออนไลน์รับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับที่ 1 ในอุตสาหกรรมค้าเครื่องประดับเพชรเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าโดยมีส่วนแบ่งที่ 15-17% จากมูลค่าตลาดรวม 3,000 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งการตลาด 5% จากตลาดเครื่องประดับเพชรทั้งหมดที่มีมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทจะบริหารจัดการต้นทุน รวมทั้งจัดงาน Jubilee Mid Year Expo 2017 โดยนำเครื่องประดับเพชร และเพชรกะรัตมาตรฐานโลกมาจำหน่ายกว่า 1.8 หมื่นชิ้น เครื่องประดับที่ราคาสูงสุดมากกว่า 300 ล้านบาท และต่ำสุดที่ประมาณหลักหมื่นบาท
