ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
การออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 30/2560 ซึ่งใช้อำนาจตาม ม.44 “ปลดล็อก” การดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ส่งผลให้แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจโดยความร่วมมือระหว่าง “จีน-ไทย” ถูกนำมาวิเคราะห์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลายอีกครั้ง
จึงอยากเชิญชวนให้ท่านผู้อ่านลองย้อนกลับไปอ่านทรรศนะของ “ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง” ในประเด็นว่าด้วยการร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างจีนกับมิตรประเทศ ผ่านหนังสือ “สีจิ้นผิง: ยุทธศาสตร์การบริหารประเทศ”
ซึ่งอาจทำให้เราพอจะมองเห็นแนวโน้มในอนาคตของความร่วมมือ “จีน-ไทย” ได้ชัดขึ้นบ้าง
ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเคยแสดงปาฐกถาหัวข้อ “ร่วมธำรงและพัฒนาเศรษฐกิจโลกแบบเปิดกว้าง” ในการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม จี20 เกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เมื่อ ค.ศ.2013
เนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า
“เศรษฐกิจจีนได้ผสานกับเศรษฐกิจโลกอย่างแนบแน่น เศรษฐกิจจีนยิ่งมีเสถียรภาพ ประสิทธิภาพการขยายตัวยิ่งสูงขึ้น อนาคตขยายตัวที่ยิ่งมีความต่อเนื่อง ก็ยิ่งสร้างประโยชน์ในระยะยาวต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของโลก
“จีนมีปัจจัยและมีความสามารถที่จะพัฒนาเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพและมีความต่อเนื่องเพื่อให้แต่ละประเทศมีตลาดที่กว้างใหญ่ยิ่งขึ้น มีพื้นที่พัฒนาที่มากยิ่งขึ้น และเพื่อให้เศรษฐกิจโลกได้เกิดผลกระทบล้นไหลในเชิงบวกมากขึ้น”
และ
“… (จีนและมิตรประเทศต้อง) ร่วมกันธำรงและพัฒนาเศรษฐกิจโลกแบบเปิดกว้าง ‘บุปผาบานดอกเดียวไม่นับเป็นฤดูใบไม้ผลิ ร้อยบุปผาสะพรั่งจึงนับเป็นสวนแห่งฤดูใบไม้ผลิ’
“หากเศรษฐกิจของแต่ละประเทศเปิดทางให้กัน ก็จะก้าวไปด้วยกัน แต่หากปิดทางกัน ก็จะล่มสลายไปด้วยกัน พวกเราต้องคล้อยไปตามกระแสแห่งยุคสมัย ต่อต้านลัทธิกีดกันทางการค้าทุกรูปแบบ ร่วมกันใช้ตลาดภายในและภายนอกประเทศทั้งสองตลาด ใช้ทรัพยากรทั้งสองแหล่งให้เป็นประโยชน์
“พวกเราต้องรักษาระบบการค้าแบบพหุภาคีที่เสรี เปิดกว้างและไม่ดูแคลนกัน ไม่ใช้มาตรฐาน กฎเกณฑ์ และรูปแบบการค้าแบบกีดกัน ป้องกันการสร้างความแตกแยกของระบบการค้าและการแยกตลาดทั่วโลกออกจากกัน
“ต้องสำรวจกฎเกณฑ์การลงทุนทั่วโลกให้พร้อมสรรพ ชี้นำการหมุนเวียนถ่ายเททุนเพื่อการพัฒนาทั่วโลกให้เหมาะสม จัดสรรทรัพยากรเพื่อการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง”
ในปีเดียวกัน ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเคยเดินทางไปแสดงปาฐกถาหัวข้อ “หุ้นส่วนที่จริงใจและมิตรแท้ตลอดกาล” ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติไนเรเร สหสาธารณรัฐแทนซาเนีย
ซึ่งมีเนื้อหาบางส่วนที่น่าสนใจดังนี้
“ประวัติศาสตร์ตอนนี้ได้บอกกับพวกเราว่า ลักษณะพิเศษของความสัมพันธ์จีน-แอฟริกาก็คือ มิตรภาพที่จริงใจ เคารพกันและกัน ผลประโยชน์เสมอภาคและพัฒนาไปพร้อมกัน
“เราทั้งสองคุยกันถูกคอ รู้สึกถึงความเสมอภาค พวกเราไม่นำจุดมุ่งหมายเพื่อความสำเร็จของตนเองมายัดเยียดให้พวกท่าน พวกท่านก็มิได้นำเอาจุดมุ่งหมายเพื่อความสำเร็จของตนเองมายัดเยียดให้พวกเรา…
“…จีนยึดมั่นในการไม่แบ่งแยกประเทศเล็กประเทศใหญ่ เข้มแข็งหรืออ่อนแอ ร่ำรวยหรือยากจน ทุกประเทศล้วนเสมอภาคกัน ปฏิบัติต่อกันด้วยความเป็นธรรม ดำรงความยุติธรรม ต่อต้านการใช้อำนาจบาตรใหญ่รังแกผู้น้อย ต่อการใช้กำลังที่เข้มแข็งรังแกผู้อ่อนแอ ต่อต้านการใช้ความร่ำรวยข่มผู้ที่ยากจนกว่า ต่อต้านการแทรกแซงการปกครองภายในของประเทศอื่น…
“บนโลกใบนี้ไม่มีรูปแบบการพัฒนาที่จะใช้ได้กับทุกพื้นที่ ทุกฝ่ายควรให้ความเคารพความหลากหลายทางอารยธรรมของโลกและรูปแบบการพัฒนาที่มีความหลากหลาย จีนจะยังคงยืนหยัดสนับสนุนประเทศในทวีปแอฟริกา ในการแสวงหาเส้นทางการพัฒนาที่เหมาะสมกับสภาพของประเทศตน…”
…………………..
ปราปต์ บุนปาน