เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่กระทรวงวัฒนธรรม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้วธ.รวบรวมเทศกาลภาพยนตร์ทั้งปีทั่วโลก เพื่อนำมากำหนดแนวทางและกำหนดเจ้าภาพในการดำเนินงานและที่ประชุมเห็นชอบให้ส่งเสริมการเผยแพร่ภาพยนตร์ในสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องจากจีนเป็นตลาดขนาดใหญ่ และชาวจีนนิยมชมภาพยนตร์ ละคร รายการทีวีของไทย รวมทั้งชื่นชอบดาราไทยอย่างมาก โดยสนับสนุนให้สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ หอการค้าไทยในจีน และหอการค้าไทยในไทย ร่วมมือกันดำเนินงานด้วยการเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์ต่างๆ ที่จัดฉายในจีน โดยนำสินค้าและบริการอื่นๆ ไปดำเนินการในลักษณะทีมประเทศไทย รวมทั้งการเผยแพร่ผ่านช่องทางอื่นๆ เช่น อินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ด้วย ขณะเดียวกันยังมีการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการภาพยนตร์ของจีนเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยมากขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ให้ขอความร่วมมือทางสถานทูตไทยในจีนช่วยเฝ้าระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ในจีนด้วย ส่วนการขยายภาพยนตร์ไปสู่สาธารณรัฐอินเดีย ควรมีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนและเริ่มจากการเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์ในอินเดีย รวมทั้งมีการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและด้านภาพยนตร์ระหว่างไทย-อินเดีย โดยเริ่มที่ทางอินเดียใต้ก่อน
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเทศกาลภาพยนตร์ระหว่างประเทศ และประกาศคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ เนื่องจากโอนภารกิจกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) มาให้กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้รับรายงานจากผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งคณะกรรมการบีโอไอได้ประชุมเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน และมีมติให้ออกประกาศมาตรการส่งเสริมการลงทุนจากแนวทางเดิมที่ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปี โดยจำกัดวงเงินไม่เกินขนาดวงเงินลงทุน เป็น ไม่จำกัดวงเงิน ขณะเดียวกัน ที่ประชุมเห็นชอบให้วธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ระยะ 3 ในปี 2560-2564 ด้วย นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้จัดฉายภาพยนตร์โดยไม่ต้องผ่านการตรวจพิจารณา จำนวน 5 เรื่อง ได้แก่ Pop Aye , A Yellow Bird , Apprentice , The Faith of Anna Waters และ Long Long Time Ago ในงานเทศกาลภาพยนตร์สิงคโปร์ 2560 (Singapore Film Festival 2017) ระหว่างวันที่ 21-25 มิถุนายน ณ โรงภาพยนตร์ เอสเอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิล์ด กรุงเทพมหานคร โดยผู้สนใจสามารถเข้าชมภาพยนตร์ได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และที่ประชุมเห็นชอบให้บรรจุรายชื่อเทศกาลภาพยนตร์สิงคโปร์ไว้แนบท้ายประกาศคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ที่สามารถนำออกฉายได้โดยยกเว้นการตรวจพิจารณาและได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
