เริ่มรับฟัง โดย นฤตย์ เสกธีระ

แฟ้มภาพ

สังเกตได้ว่าหลังจาก คสช.ครบรอบ 3 ปี ท่าทีอย่างหนึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เปลี่ยนแปลง

นั่นคือ ต้องการฟัง

หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2557 พล.อ.ประยุทธ์นำคณะนายทหารยึดอำนาจ จากนั้นเคยสั่งให้รับฟังประชาชนมาครั้งหนึ่ง

รับฟังในเรื่องปรองดอง

Advertisement

แต่ในช่วงนั้น บรรยากาศไม่เหมาะกับการแสดงความคิดเห็น

ดังนั้น จึงไม่ค่อยเห็นสิ่งใดเกิดขึ้นหลังจากมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นไป

แต่มาครั้งนี้ไม่เหมือนกัน เพราะครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ผ่านงานบริหารราชการแผ่นดินมา 3 ปี

Advertisement

ผ่านการ “ไม่รับฟัง” และการ “รับฟัง” มาจนน่าจะรู้ว่าการที่ได้ฟังดีกว่าไม่ได้ฟัง

หรือ พล.อ.ประยุทธ์ปิ๊งอะไรมากกว่านี้ก็มิอาจทราบ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้คือ พล.อ.ประยุทธ์ชวนคุย

การตั้งคำถาม 4 ข้อนั้น อาจถูกมองว่าเป็นคำถามเพื่อนำไปสู่การอยู่ต่อ

แต่การชวนคิด 50 ประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์เพิ่งบอกให้ฟังเมื่อวันศุกร์ก่อน

อันนี้เหมือนกับการชวนคิดชวนคุย

หาก คสช.สร้างบรรยากาศ “แลกเปลี่ยนความคิดเห็น” ให้กว้างขวางขึ้น

บางทีแนวทางดีๆ ในการปฏิรูปในบางเรื่องอาจจะปรากฏขึ้นมาให้เห็น

ทั้งนี้ การเดินหน้าตามแนวทางปฏิรูปที่ทำกันมาก็ทำกันไป แต่ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมานั้นประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม

หากต่อไปใช้ 50 ประเด็นชวนคิดชวนคุยนี้ เก็บรวบรวมแนวทางการปฏิรูปกันใหม่

บางทีข้อเสนอแนะจากหลายๆ คนอาจเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติได้

ยิ่งในวันนี้ ตามกำหนดแล้วคณะอนุกรรมการชุดของ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.จะนำเสนอ “สัญญาปรองดอง” ให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

สัญญาปรองดองนี้ได้มาจากการระดมความคิดเห็นจากคนไทยกลุ่มต่างๆ คนไทยภาคต่างๆ โดยมีคำถาม 10-11 ข้อตั้งไว้ให้ตอบ

แต่การตอบก็คงจำกัดเฉพาะคนที่ได้รับเชิญ

ดังนั้น หากมีประเด็นชวนคิดชวนคุย 50 ข้อที่ พล.อ.ประยุทธ์เกริ่นไว้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นตัวเสริม

บางทีข้อเสนอที่ได้ฟัง อาจจะสร้างความศรัทธาความเป็นกลางขึ้นมา

เพราะในขณะที่สังคมมีคู่ขัดแย้ง สังคมก็มีผู้ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายไหนเหมือนกัน

แม้บางทีข้อเสนอนั้นอาจจะไม่ตรงใจ คสช.แต่เชื่อว่าหากเป็นข้อเสนอที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์

ข้อเสนอต่างๆ คงมีโอกาสได้นำไปสู่การปฏิบัติ

การเปิดรับฟังแล้วนำเอาข้อมูลที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม

ย่อมกระตุ้นให้คนอยากมีส่วนร่วมกับรัฐบาลอีกหลายครั้ง

นี่แค่ คสช.และรัฐบาลแสดงท่าทีว่าอยากฟังนะ คนยังอยากจะพูดอยากเสนอแนะ

ถ้า คสช.และรัฐบาลนำเอาข้อเสนอแนะที่ประชาชนมอบให้

นำไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง

นอกจาก คสช.และรัฐบาลจะมีแนวร่วมเพิ่มขึ้นแล้ว ยังจะมีผลงานปรากฏตรงตามความต้องการของประชาชนอีกต่างหาก

และเรื่องแรกที่อยากให้ คสช.และรัฐบาลเปิดใจรับฟังคือ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากคำสั่ง ม.44 ปลดล็อกกฎหมายเพื่อเดินหน้ารถไฟไทย-จีน

………………

นฤตย์ เสกธีระ [email protected]

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image