ปลัดยธ.แจง ยกเลิกคำสั่งตั้ง 2 รองอธิบดีดีเอสไอ ต้องทำให้ถูกกม. ชี้ไม่กระทบคดี

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กรณีปัญหาการแต่งตั้งรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และผู้บัญชาการสำนักคดีผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษกัน ว่า สำหรับกรณีของคำสั่งกระทรวงยุติธรรมที่มีการแต่งตั้งตำแหน่งรองอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งทางสำนักข้าราชการพลเรือน (กพ.) ได้แจ้งมาแล้วว่าเป็นการดำเนินการภายหลังที่คณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญ หมดอายุ และมีข้อแนะนำมายังกระทรวงยุติธรรมว่าควรยกเลิกคำสั่งดังกล่าว และดำเนินการให้ถูกต้อง ทางกระทรวงยุติธรรมจึงได้มีการยกเลิกคำสั่งการแต่งตั้ง ซึ่งก็หมายความว่ารองอธิบดีดีเอสไอทั้ง 2 คน ก็จะต้องกลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิม ขณะเดียวกันกระบวนการสรรหาข้าราชการพลเรือนสามัญในตำแหน่งดังกล่าว ก็ต้องเริ่มดำเนินการใหม่ ซึ่งตนได้มีคำสั่งไปในวันนี้แล้ว

“ผมเรียนว่า ในการย้ายกลับเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนอีกประเด็นคือการดำเนินการในตำแหน่งต่างๆเหล่านี้ ก็ไม่มีผลในเรื่องทางคดี เพราะทุกท่านที่ดำเนินคดีอยู่เป็นพนักงานสอบสวนคดพิเศษและได้ประสานกับอธิบดีดีเอสไออยู่แล้วว่าการดำเนินคดีอยู่เป็นการทำงานในคณะกรรมการ เพราะฉะนั้นก็เป็นรูปของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นตำแหน่งเฉพาะ ไม่ได้มีผลกระทบ คดีอะไรที่ทำอยู่ก็สามารถทำได้ตามปกติ” ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวและว่า ดังนั้น จึงไม่มีปัญหาในเรื่องของการสั่งคดีแน่นอน เพราะอำนาจการสั่งคดีเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การสรรหาหลังจากที่มีคำสั่งยกเลิกจะใช้ระยะเวลานานหรือไม่ นายวิศิษฏ์ กล่าวว่า ก็เป็นระยะเวลาตามปกติ คือ 1 เดือนครึ่ง ถึง 2 เดือน ส่วนคำถามที่ว่า หากไม่มีข้าราชการร้องเรียนทางกระทรวงจะทราบหรือไม่นั้น จากรายงานที่ตนได้รับทราบคือเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ก็ตรวจสอบพบด้วยเช่นกัน โดยอย่าลืมว่าการทำงานของคณะกรรมการมันจะมีระยะเวลา ซึ่งกรณีนี้เมื่อพบว่ามีข้อคลาดเคลื่อนในเรื่องระยะเวลา ทางเจ้าหน้าที่ก็รายงานขึ้นมาด้วยไม่ได้มีการปกปิดอะไร ถึงแม้ไม่ร้องก็ต้องเจอ เพราะว่ากระบวนการในเรื่องคณะกรรมการสรรหามีเวลา 1 ปี ซึ่งตนก็เคยอยู่ในคณะกรรมการพวกนี้ มันจะต้องมีวาระ โดยทาง คณะอนุกรรมการสามัญประจำกระทรวง (อ.ก.พ.กระทรวง) ก็จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญ ชุดใหม่

เมื่อถามต่อว่า สำหรับตัวบุคคลจะส่งผลกระทบอะไรหรือไม่ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า อยู่ที่ทางคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญ ว่าเมื่อมีการเปิดรับสมัครในตำแหน่งดังกล่าว จะมีผู้มาลงสมัครใหม่เพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งอยู่ในดุลพินิจและการสอบของคณะกรรมการ แต่ว่าคำสั่งเก่าไม่สามารถใช้ได้แล้ว ส่วนคนที่เคยเป็นตำแหน่งดังกล่าวจะได้เป็นหรือไม่นั้น ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็น ทั้งนี้ เบื้องต้นพบว่า ตำแหน่งที่จะต้องมีการถอยกลับไปยังตำแหน่งเดิมมี 6 ตำแหน่ง คือ รองอธิบดีดีเอสไอที่ได้รับการแต่งตั้งจากคำสั่งเดิมก็ต้องกลับไปเป็นผู้บัญชาการสำนักคดีก่อนหน้านี้ และนอกจากนี้ ก็จะมีกรณีของผู้บัญชาการสำนักคดีที่จะต้องย้ายกลับไปเป็นผู้เชี่ยวชาญเดิมก่อน อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว พบเพียงของดีเอสไอเท่านั้น กรมอื่นยังไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งในส่วนของกรมราชทัณฑ์ก็ยังอยู่ในกระบวนการสรรหาในปัจจุบัน

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image