อธิบดีดีเอสไอ ชี้คำสั่ง ยธ.ยกเลิก 2 เก้าอี้ รองอธิบดี กระทบความรู้สึกคนถูกแต่งตั้ง แต่ไม่กระทบคดี

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ลงนามยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญในตำแหน่งรองอธิบดีดีเอสไอ 2 ตำแหน่ง ว่า จากกรณีดังกล่าว พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในคดีรถยนต์หรูหลบเลี่ยงภาษี ก็จะต้องกลับไปดำรงตำแหน่งเดิม คือ ผู้บัญชาการสำนักคดีพิเศษภาค และ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีดีเอสไอ ที่เป็นผู้ดูแลคดีเกี่ยวกับการบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติ ก็จะต้องกลับไปดำรงตำแหน่งเดิม คือ ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม โดยกระบวนการคัดเลือกหลังจากนี้ ทางคณะกรรมการของกระทรวงก็จะต้องเริ่มต้นกระบวนการสรรหาใหม่อีกครั้ง

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวต่อว่า ส่วนคดีอาญาต่างๆที่สังคมอาจมีความเป็นห่วงว่าจะส่งผลกระทบหรือไม่นั้น คดีต่างๆสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง เพราะว่าคณะพนักงานสอบสวนของดีเอสไอ ตำแหน่งเป็นพนักงานสอบสวนคดีพิเศษอยู่แล้ว ดังนั้น การสอบสวนก็ชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนคดีสำคัญที่กำลังเป็นที่สนใจของประชาชนอยู่ในขณะนี้ก็คงไม่ส่งผลกระทบเช่นกัน เพราะว่าคดีเกี่ยวกับการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทางพ.ต.ท.ประวุธเดิมเป็นผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคฯ ก็เป็นผู้ทำคดีนี้อยู่ส่วนคดีเกี่ยวกับเรื่องการตรวจสอบรถยนต์หรูหลบเลี่ยงภาษีทางสำนักคดีพิเศษภาค พ.ต.ท.กรวัชร์ก็เป็นคณะพนักงานสอบสวนอยู่เดิมตอนที่เป็นผู้บัญชาการสำนักคดีดังกล่าว จึงยังเป็นผู้ดูคดีนี้อยู่ จึงไม่ส่งผลกระทบอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเกิดปัญหาเช่นนี้จะทำให้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของคนภายนอกหรือไม่ พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องของกระบวนการ รายละเอียดต้องสอบถามไปยังกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเราเองก็ทราบว่าคำสั่งก็มีผลต่อความรู้สึกของคนที่ได้รับการแต่งตั้งก่อนหน้านี้ แต่ท้ายที่สุด ถ้ากระบวนการมันไม่ชอบด้วยกฎหมาย รีบแก้ไขก็จะดีกว่าปล่อยให้เกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง หากแก้ได้ก็รีบให้แก้ไขก่อน อย่างไรก็ตาม ทราบว่าในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ ทางกระทรวงจะมีการประชุมถึงขั้นตอนการสรรหาใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้ เราคงไม่มีการตั้งใครเป็นรักษาการแทนในตำแหน่งดังกล่าว

“ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษเองก็มองในภาพเรื่องคดี ว่าคดีมีผลกระทบหรือไม่ ซึ่งก็ไม่มีผลกระทบ ส่วนกระบวนการแต่งตั้งเมื่อกระทรวงบอกว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องก็ต้องแก้ไขให้ถูกต้องต่อไป ทั้งนี้ ตนได้พูดคุกับข้าราชการทั้ง 2 รายแล้ว แต่ก็เข้าใจว่ามันเป็นปัญหา ถ้าปล่อยไปแล้วไม่แก้ไขตอนนี้ พอตอนหลังก็จะเป็นปัญหา เพราะในช่วงที่มีคำสั่งเป็นรองอธิบดีการกระทำในสำนวนกฎหมายก็ถือว่าชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว แต่หลังจากมีคำสั่งยกเลิกแต่งตั้งดังกล่าวออกมา รองอธิบดีทั้ง 2 คน ก็จะไม่สามารถเซ็นต์อะไรได้อีก แต่ที่เซ็นต์ไปก่อนหน้านี้ถือว่าชอบด้วยกฎหมาย” พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image