จุฬาฯ จัดเสวนา “ฟันธงธุรกิจไทยครึ่งหลังปี 2560” ชี้โอกาสเติบโตของธุรกิจไทยยุค New Normal

รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์ คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในงานเสวนา ฟันธงธุรกิจไทยครึ่งหลังปี 2560 ว่า ธุรกิจครึ่งปีหลังดีกว่าปีที่แล้ว แต่ยังไม่ดีนัก มีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ในรูปแบบการแข่งขันใหม่ๆ มีผู้เล่นรายใหม่ๆ ที่เข้ามาสร้างธุรกิจใหม่ ทำให้ทุกธุรกิจต้องเผชิญกับความท้าทาย ฉะนั้นข้อมูลจึงกลายเป็นปัจจัยที่ใช้ในการแข่งขันมากขึ้น ควบคู่กับการสร้างนวัตกรรมให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค และปรับเปลี่ยนทิศทางการเติบโตผ่านการร่วมทุนและขยายสู่ตลาดเพื่อนบ้าน

 “ผู้เล่นรายใหม่ๆ เหล่านี้มีทั้งพวกที่เป็นสตาร์ทอัพ หรือแม้กระทั่งองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่โดดขึ้นมารบบนสนามออนไลน์มากขึ้น หรือแม้แต่ผู้เล่นจากต่างประเทศที่จะบุกเข้ามาในไทย การเติบโตของธุรกิจไทยนับจากนี้ไปจึงต้องมองมิติใหม่ๆ ซึ่งต้องอาศัยคนรุ่นใหม่เพื่อหลีกหนีจากกรอบความคิดเดิมๆ โดยการเข้าไปลงทุนในกลุ่มสตาร์ทอัพ ซึ่งคนกลุ่มนี้มีไอเดีย แต่ไม่มีเงินทุนจะต่อยอดให้เกิดความสำเร็จได้ด้วยตัวเอง ขณะที่องค์กรใหญ่มีเงินทุน จึงสามารถสอดประสานและนำธุรกิจใหม่ๆ มาเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลักของตนเพื่อให้เกิดการเติบโตแบบยั่งยืนรศ.ดร.พสุกล่าว และว่านอกจากการเข้าไปลงทุนในกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพแล้ว องค์กรธุรกิจต้องปรับทิศทางการเติบโตไปในประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้นอีกด้วย เนื่องจากช่วงปีที่ผ่านมาความต้องการภายในประเทศมีการเติบโตน้อยมาก

 ทั้งนี้ รศ.ดร.พสุ ยังกล่าวถึงแนวทางการบริหารจัดการในช่วงครึ่งปีหลัง 2560 ว่าเพื่อให้ภาคธุรกิจมีการเติบโตที่สอดคล้องกับนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ที่รัฐบาลกำลังให้การส่งเสริม การบริหารจัดการต้องเน้นใน 3 เรื่องคือ องค์กร 4.0 ผู้นำ 4.0 และกลยุทธ์ 4.0 กล่าวคือองค์กรจะมีความหลากหลายมากขึ้นจากบุคลากรหลายเจเนอเรชั่นมาทำงานร่วมกัน การพัฒนาบุคลากร สำหรับองค์กรยุคใหม่ต้องเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นการส่งเสริมให้พนักงานมีทักษะในการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้มีความรู้ความสามารถก้าวตามทันความเปลี่ยนแปลงของโลก ขณะที่ผู้นำ 4.0 ต้องมีความถ่อมตนทางปัญญา เพื่อเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ส่วนกลยุทธ์ 4.0 คือการใช้มุมมองใหม่ๆ มาสร้างกลยุทธ์ต่างๆ ในการบริหารจัดการธุรกิจ พร้อมๆ กับการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเป็นโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับองค์กร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image