เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กรรมการ กกต. กล่าวภายหลังการประชุม กกต.ว่า การประชุม กกต.วันนี้ได้มีการหาข้อยุติกรณีที่ กกต.มีความเห็นโต้แย้งต่อร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. โดยเฉพาะกรณีการเซตซีโร่ กกต.ชุดปัจจุบันว่าเป็นการตรากฎหมายที่ไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ซึ่ง กกต.มีมติเสียงข้างมากว่าเห็นควรโต้แย้งประเด็นดังกล่าวต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยตนเป็นเสียงข้างน้อยที่เห็นต่างจากมติ กกต.เสียงข้างมาก เพราะเห็นว่าไม่ควรโต้แย้งในประเด็นนี้ เนื่องจาก สนช.ประชุมพิจารณาประเด็นนี้และมีมติด้วยคะแนน 177 ต่อ 1 เห็นชอบกฎหมายดังกล่าวรวมทั้งให้เซตซีโร่ กกต.ซึ่ง สนช.ได้ประชุมและพิจารณาเหตุผลต่างๆ อย่างกว้างขวางและมีมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ดังนั้นการจะโต้แย้งมติดังกล่าวต้องมีเหตุผลหนักแน่น มิใช่เรื่องความรู้สึกชอบ ไม่ชอบ หรือยุติธรรม ไม่ยุติธรรมเพียงอย่างเดียว ซึ่งตนในฐานะนักกฎหมายเคารพในดุลพินิจ วิจารณญาณของกระบวนการนิติบัญญัติโดยชอบดังกล่าว
นายธีรวัฒน์กล่าวอีกว่า การเซตซีโร่ กกต.ส่งผลให้ กกต.ชุดนี้ต้องพ้นจากตำแหน่ง ซึ่ง กกต.ชุดนี้เป็นผู้เสียประโยชน์ ดังนั้นการที่ กกต.โต้แย้งประเด็นดังกล่าวย่อมหมิ่นเหม่ให้สาธารณชนเข้าใจว่า กกต.ชุดนี้ มุ่งรักษาประโยชน์ส่วนตน ยื้อเพื่อรักษาเก้าอี้มากกว่าประเด็นที่เป็นประโยชน์สาธารณะ ซึ่งเป็นเรื่องไม่สง่างาม ทั้งนี้ การเป็นกรรมการในองค์กรอิสระซึ่งเป็นองค์กรระดับชาติ กรรมการต้องภูมิใจในศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิ ดังนั้น กิจกรรมใดหมิ่นเหม่ให้เสื่อมศักดิ์และเกียรติภูมิต้องหลีกเลี่ยงและยอมรับในผลนั้น แม้ว่าจะกระทบประโยชน์ตนก็ตาม
“เมื่อ สนช.มีมติเซตซีโร่ กกต.ชุดนี้ ผมรู้สึกโล่ง โปร่ง เพราะมีความเชื่อมั่นว่าในโลกนี้ยังมีเรื่องดีๆ ที่จะทำได้อีกมากมาย กกต.ตำแหน่งเป็นเพียงหัวโขน ตนจึงน้อมรับทุกการเปลี่ยนแปลง ไม่ยึดติด” นายธีรวัฒน์กล่าว
