เปิดวิดีทัศน์ พรีเซนต์ละเอียดยิบ แกะรอยจับ”วัฒนา”อดีตวิศวกร มือบึ้ม6จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนการแถลงข่าวรับมอบตัวนายวัฒนา ภุมเรศ อดีตวิศวกรไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ผู้ต้องหาคดีระเบิดรพ.พระมงกุฎเกล้า และจุดอื่นอีก5จุด เจ้าหน้าที่ได้ฉายวิดีทัศน์ รายละเอียดคดีระเบิดที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า ดังนี้ เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2560 เวลา 20.00 น.ได้เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณถังขยะด้านหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เก่า) ถนนราชดำเนิน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ต่อมาเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2560 เวลาประมาณ 21.00 น.เกิดเหตุระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ต่อมาเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เวลา 10.30 น.ได้เกิดเหตุระเบิดที่ รพ.พระมงกุฏเกล้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 28 ราย ทรัพย์สินเสีย
หาย

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้วิเคราะห์พยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุทั้ง 3 จุด พบว่าส่วนประกอบหลักของระเบิดทั้ง 3 จุด มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่หน่วยอีโอดี เชื่อว่าคนประกอบระเบิดเป็นบุคคลคนเดียวกัน นอกจากนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ามีบุคคลจำนวน 12,000 คน ไล่ตรวจสอบคนเหลือร้อยคน และเหลือ 10คนที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดจำนวน 21 ตัว บริเวณ รพ. เมื่อพิสูจน์ทราบบุคคลต้องสงสัยพบภาพชายสูงวัยถือถุงพลาสติก ภายในบรรจุวัตถุที่มีน้ำหนักและร่มสีดำ 1 คัน ลักษณะมีพิรุธ เดินเข้ามาภายใน รพ.พระมงกุฏ ทางด้านหน้า ใช้เวลาเพียง 1.20 นาที ก่อนเข้าไปภายในอาคารเฉลิมพระเกียรติ และอยู่ในห้องวงษ์สุวรรณ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 33 นาที ออกมาจากห้องดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุระเบิดเพียง 10 นาที โดยถือถุงพลาสติกต้องสงสัย แต่ไม่มีวัตถุที่มีน้ำหนัก เหลือเพียงร่มสีดำ 1 คันเท่านั้น

เมื่อพิสูจน์ทราบบุคคลต้องสงสัยแล้ว ผบ.ตร. สั่งการให้ บก.สส.บช.น.ระดมกำลังหาความเชื่อมโยง โดยเริ่มตั้งแต่วันที้่ 21 พ.ค. เวลา 16.50 น.พบผู้ต้องสงสัย(นายวัฒนา) ขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคตลยี่ห้อฮอนด้าซิตี้ สีเทา ทะเบียน 1 กฎ 6827 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดภายในลานจอดรถการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี สวมเสื้อแขนสั้นลายพราง กางเกงขายาวสีครีม จากนั้นเดินไปยังอาคารสถานพยาบาล จูงรถจักรยานมาที่ข้างรถยนต์ของตนเองแล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อแขนสั้นสีครีม ก่อนปั่นจักรยานคันดังกล่าว ออกไปจากลานจอดรถ ตามเส้นทางเพื่อออกประตูหลังของ กฟผ.เพื่อเดินทางไปยังยันฮีคอนโด ในเวลา 17.29 น. ต่อมาวันที่ 22 พ.ค. เวลา 06.13 น.นายวัฒนาได้ออกมาจากอาคารยันฮีคอนโด สวมเสื้อแขนสั้นสีครีม กางเกงขายาวสีครีม ขี่รถจักรยานมายังอาคาร กฟผ.อีกครั้ง ปั่นจักรยานมาจอดที่ข้างรถยนต์ของตนเอง จากนั้นหยิบถุงพลาสติกสีขาวขนาดใหญ่จากประตูด้านหน้าฝั่งคนขับ ซึ่งภายในถุงพลาสติกมีแจกันดอกไม้ และช่อดอกไม้สีส้มแดง ก่อนขี่จักรยานออกจาก กฟผ.ทางด้านประตูหน้า มุ่งหน้าไปทางปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 97 จากนั้นได้ขี่จักรยานมาบนทางเท้าแล้วย้อนศรมุ่งหน้าไปยังสะพานลอยคนข้าม เพื่อข้ามสะพานลอยไปยัง ซ.จรัญฯ 96/2 และได้ขึ้นรถโดยสารประจำทาง สาย ปอ.18ใน เวลา 07.43 น.

Advertisement

ต่อมาเวลา 08.43 น. นายวัฒนา ได้ลงจากประจำทางคันดังกล่าว ที่บริเวณป้ายรถประจำทางระหว่างประตู 5 และ 6 ของ รพ.พระมงกุฎเกล้า โดยได้สวมที่ปิดปากปิดจมูกอำพรางใบหน้าเดินถือถุงพลาสติกมาตาม ถนนราชวิถี ทิศทางจากแยกตึกชัย มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อเดินทางมาถึงประตู 6 นายวัฒนา เดินเลี้ยวซ้ายเข้าไปภายในโรงพยาบาล มุ่งหน้าไปปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ จากนั้นเวลา 08.46 น. เดินเข้าไปภายในอาคาร และเดินเข้าไปภายในห้องวงษ์สุวรรณ ในเวลาประมาณ 08.47 น. โดยนายวัฒนา อยู่ในห้องดังกล่าวเป็นเวลา 1 ชั่วโมง 33 นาที ระหว่างนี้นายวัฒนา ได้เปิดสวิตซ์ระเบิดและเริ่มหน่วงเวลาระเบิด จากนั้นเวลา 10.20 น. นายวัฒนาได้เดินออกมาจากห้องวงษ์สุวรรณ ก่อนเกิดเหตุระเบิดมากกว่า 10 นาที เท่านั้น โดยใช้มือขวากำรวบถุงพลาสติกเข้ากับด้ามร่มในลักษณะหนีบ ไม่ปรากฏวัตถุที่มีน้ำหนัก คือ แจกันดอกไม้ และช่อดอกไม้สีส้มแดงที่นำมาด้วย จากนั้นได้เดินออกจากอาคารเฉลิมพระเกียรติผ่านทางก่อสร้าง และปรากฏภาพนายวัฒนา เดินตามถนนราชวิถี จากประตู 7 มุ่งหน้าประตู 6 เพื่อไปยังป้ายรถประจำทาง

เวลา 10.31 น. มีพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้ถ่ายภาพและปรากฏภาพแจกันต้องสงสัยติดผนังที่จุดเกิดเหตุไม่นาน ก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิดขึ้น เวลา 10.43 น.หลังเกิดเหตุนายวัฒนา ได้ขึ้นรถประจำทางสาย 14 ที่ป้ายรถประจำทางระหว่างประตู 5 กับประตู 6 มุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนลงจากรถบริเวณเกาะพญาไท จากนั้นได้เดินบนสกายวล์อก ไปยังฝั่ง รพ.ราชวิถี ก่อนลงจากสะพานมาที่บริเวณเกาะราชวิถี และไปนั่งอยู่บริเวณจุดติดตั้งตู้เอทีเอ็ม โดยนั่งอยู่บริเวณดังกล่าวเป็นเวลา 18 นาที แล้วลุกเดินเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยว ต่อมาเวลา 11.31 น.ได้เดินออกมามุ่งหน้าไปยังป้อม ขสมก. จนกระทั่งเวลา 12.24 น. ได้เดินออกมาจากป้อม ขสมก. แล้วขึ้นรถประจำทางสาย 18 เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไป ยังท่าอิฐ จ.นนทบุรี จากนั้นเวลา 13.03 น.นายวัฒนาได้ลงจากรถ ขี่จักรยานกางร่มผ่านร้าน 7-11 ปากซอยจรัญฯ 97 มุ่งหน้าไปยังกฟผ. บางกรวย และเข้าไปจอดบริเวณอาคารสถานพยาบาล ก่อนเดินมาที่รถยนต์ที่จอดไว้ เพื่อเก็บของในรถประจำทาง และขับรถยนต์ส่วนตัวออกไปจาก กฟผ.

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ได้นำข้อมูลกล้องวงจรปิดตามเส้นทางของ นายวัฒนา มากำหนดจุดลงในแผนที่ทั้งขาไปและกลับ อีกทั้งมีการตรวจสอบทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่นายวัฒนาขับขี่ พบว่าผู้ครอบครองรถ คือ บุตรชาย ของ นายวัฒนา รวมทั้งได้สอบถามประวัติของผู้ต้องสงสัย ทราบว่าเคยทำงานที่ กฟผ. ก่อนที่จะเกษียณอายุ จากข้อมูลที่สืบสวนสอบสวนดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังจาก บก.สส.บช.น. ตำรวจนครบาล บก.ป. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด หรรือ อีโอดี กองกำกับการสุนัขตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าตรวจสอบบ้านพักของนายวัฒนา พบของกลางซึ่งมีความเชื่อมโยงกับคดีระเบิดที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ทั้ง 3 คดี ประกอบได้ซักถาม นายวัฒนา แล้ว ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ประกอบระเบิดด้วยตนเองที่บ้านพัก เนื่องจากไม่ชอบรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติและรู้สึกเจ็บปวดกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่วัดปทุมวนารามเมื่อปี 2553 รวมทั้งได้สอบถามนายวัฒนา ซึ่งรับว่าเหตุเกิดขึ้นในปี 2550 เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันถึง 3 ครั้ง บริเวณตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซินิเพล็กซ์ รัชโยธิน ตู้โทรศัพท์สาธารณะปากซอยราชวิถี 24 และตู้โทรศัพท์สาธารณะ ปากซอยข้างกองบัญชาการกองทัพบกอีกด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image