พาณิชย์เสริมศักยภาพเอสเอ็มอี เตรียมความพร้อม แนะวิธีรับมือเงินบาทแข็งค่า

 

19 มิถุนายน 2560 – นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มอบหมายให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานเสวนา “ค่าเงินบาทแข็ง SMEs แก้ได้อย่างไร” ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบัน NEA กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และธนาคารที่เป็นพันธมิตรจัดขึ้น เพื่อให้ความรู้ แนวคิด เทคนิคการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในธุรกิจส่งออก-นำเข้าที่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน รวมทั้งผู้สนใจที่ต้องการเตรียมความพร้อมก่อนการดำเนินธุรกิจนำเข้า-ส่งออกอย่างจริงจัง

“จากสถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย กระทรวงพาณิชย์จึงได้มอบหมายให้สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ NEA (New Economy Academy) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร จัดงานเสวนาเรื่อง “ค่าเงินบาทแข็ง SMEs แก้ได้อย่างไร” ขึ้นในวันนี้ เพื่อให้ความรู้และความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอี เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาท ว่าจะส่งผลกระทบต่อการนำเข้า-ส่งออกอย่างไร และจะหาแนวทางแก้ไข ลดความเสี่ยง หรือป้องกันผลกระทบได้อย่างไร เนื่องจากปัจจุบันการค้าโลกมีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพการค้าบ่อยครั้ง จำเป็นที่เอสเอ็มอีของเราจะต้องมีความรู้รอบด้านและเข้าใจวิธีการเตรียมรับมือ เพื่อป้องกันหรือบรรเทาปัญหาที่อาจเกิดขึ้น” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า งานเสวนาครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออันดียิ่งจากผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการการเงินจากหน่วยงานต่างๆ มาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ อาทิ การบรรยายในหัวข้อ “แนวทางผ่อนคลายเงินตราต่างประเทศของธนาคารแห่งประเทศไทยกับผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทย” โดยดร. วชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย การเสวนาในหัวข้อ “จับกระแสเศรษฐกิจเป็น เห็นโอกาสธุรกิจ” โดยนางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย นายบรรณ เกษมทรัพย์ กรรมการกลุ่มการค้าระหว่างประเทศ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  นายอโศก อุปัทยา รองเลขาธิการอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร รองกรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย นายสุโชติ เปี่ยมชล รองผู้อำนวยการฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารที่เป็นพันธมิตรต่างๆ

Advertisement

นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการต้นแบบที่มีเทคนิคการบริหารจัดการความเสี่ยงค่าเงินผันผวนที่ประสบความสำเร็จมาเล่าประสบการณ์จริงอย่างลงลึก และผู้เข้าร่วมงานจะได้รับคำปรึกษาจากธนาคารพาณิชย์ที่มาออกคูหาในงาน พร้อมนำเสนอบริการช่วยเอสเอ็มอีในการบริหารจัดการความเสี่ยงค่าเงินที่เหมาะกับธุรกิจของแต่ละราย และสิทธิประโยชน์ที่จะให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกท่านเป็นพิเศษอีกด้วย

“กระทรวงพาณิชย์เล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการรายใหม่ โดยถือเป็นตัวแปรสำคัญของอนาคตการส่งออกไทย จึงมุ่งเน้นผลักดันให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการรายใหม่มีศักยภาพในการแข่งขันและสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดโลกได้ครอบคลุมในทุกมิติ นำไปสู่โครงสร้างการส่งออกไทยที่เติบโตอย่างมั่นคง และมูลค่าการส่งออกไทยที่มีเสถียรภาพอย่างยั่งยืน” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์กล่าวในตอนท้าย

สำหรับสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ NEA ภายใต้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการกลุ่มต่างๆ ให้เข้าใจวิธีการทำการค้าขายยุคใหม่ในหลายด้าน อาทิ ด้านดิจิทัล ด้านบริหารจัดการธุรกิจสู่สากล ความรู้เบื้องต้นเพื่อการส่งออก ความรู้เฉพาะทางด้านการตลาดระหว่างประเทศ ที่เน้นเป็นประเภทสินค้า หรือเน้นตามตลาด เป็นต้น ซึ่งจนถึงปัจจุบัน ได้พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไปแล้วทั้งหมดเกือบ 13,000 ราย และจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ออกมาตลอดปี ผู้ประกอบการที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 507 8111 หรือที่ http://nea.ditp.go.th

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image