อีก 10 ปีข้างหน้า โดย ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์

เสกสรรค์ ประเสริฐกุล

ปาฐกถาของอาจารย์ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล เรื่องการเมืองไทยกับสังคม 4.0 ในงามสัมมนาดิเรกทอล์ก ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีเนื้อหาที่สอดคล้องกับวาระครบรอบ 85 ปี เหตุการณ์ปฏิวัติสยาม วันที่ 24 มิถุนายนที่จะถึงนี้เป็นอย่างยิ่ง

เป็นภาพการวิเคราะห์การเมืองไทยที่วัยรุ่นเรียกว่า “ปังมากๆ” เพราะเชื่อมต่อจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ 85 ปีก่อนได้ดี

ใครยังไม่ได้อ่านหรือต้องการอ่านแบบละเอียด หาอ่านได้ทั้งในหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ของมติชนและข่าวสด

จะได้ภาพเค้าลาง ว่า 10 ปีข้างหน้านี้จะเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย

Advertisement

แม้จะเป็นภาพที่อ่านแล้วน่าจะชอกช้ำมากกว่ามีความหวัง แต่อาจารย์เสกสรรค์บอกว่าเป็นการมองความจริงโดยไม่หลบตา ซึ่งประเด็นนี้สำคัญมากสำหรับสังคมไทยที่มักไม่ค่อยพูดอะไรกันแบบตรงไปตรงมา อาจเพราะต้องการรักษาหน้าตาศักดิ์ศรีที่แบบว่าไม่แพ้ชาติใดในโลกไว้ให้ได้

ถ้าเทียบ 10 ปีข้างหน้าของประเทศไทยกับอนาคตของประเทศอื่นๆ ในโลกก็อาจจะดูมีสีสันขึ้นด้วย

เช่น ญี่ปุ่นใน 10 ปีข้างหน้านี้จะก้าวสู่ยุคสังคม 5.0 ที่นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ชินโสะ อาเบะ กล่าวว่า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดิจิทัลจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการยกระดับความเป็นอยู่ของคนและสังคมให้ดีขึ้น

Advertisement

อังกฤษ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดช่วงสิบปีนี้คงจะออกจากสหภาพยุโรปเสร็จสิ้นและได้เห็นผลเปรียบเทียบว่าดีกว่าเดิมหรือไม่อย่างไร

ฝรั่งเศสในอีก 10 ปี นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีหนุ่มก็ยังอายุไม่ถึง 50 ปีด้วยซ้ำ แต่จะยังเป็นผู้นำอยู่หรือไม่ยังเดาไม่ได้ ในขณะที่นางสิงห์ แองเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนีน่าจะตั้งทายาทการเมืองเข้ามาแทนแล้วในตอนนั้น

ด้านพญามังกร สี จิ้นผิง น่าจะพ้นตำแหน่งผู้นำในปี 2566 ดังนั้นอีกสิบปี ผู้นำรุ่นที่ 6 ก็คงมารับไม้ต่อ โครงการเส้นทางสายไหมเส้นใหม่น่าจะยังคึกคัก แต่ปัญหาความขัดแย้งด้านเชื้อชาติศาสนาในเขตปกครองพิเศษซินเจียง และชะตาของไต้หวันจะเป็นอย่างไรยังนึกไม่ออก

ส่วนเพื่อนบ้านของไทย ลาว พม่า กัมพูชา เศรษฐกิจคงจะเติบโตตามแนวโน้มที่เป็นอยู่ แต่เรื่องสิทธิมนุษยชนจะดีขึ้นหรือแย่ลงก็น่าคิดอยู่

กลับมาที่บ้านเรา นอกจากสถานการณ์ที่อาจารย์เสกสรรค์วิเคราะห์ไทยแลนด์ 4.0 ในด้านการเมืองอย่างเข้มข้นแล้ว ถ้ามามองเรื่องเบาๆ ในวงการบันเทิง เชื่อได้ว่าใน 10 ปีข้างหน้า ยังจะมีละครจำเลยรัก เมียหลวง น้ำเซาะทราย ปริศนา บ้านทรายทอง กลับมารีเมกเป็นเวอร์ชั่นใหม่

ในขณะที่นักการเมืองจะยังถูกตราหน้าในภาพเดิมๆ ว่าหวังผลประโยชน์ โกงกิน มากกว่าการเป็นตัวแทนประชาชน

อย่างไรก็ตาม แสงสว่างที่ยังวาบเล็กๆ อยู่ปลายถ้ำที่อาจารย์เสกสรรค์กล่าวทิ้งท้ายไว้ คือ เสียงของประชาชน

“จากที่เคยมีน้ำหนักมากในการจัดตั้งรัฐบาลและเลือกนโยบายที่พวกเขาพอใจ แต่ถูกทำให้เงียบสนิทมาตลอดระยะเวลา 3 ปี ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ชัดว่าพวกเขาคิดอย่างไร และจะแสดงออกทางการเมืองแบบไหน เมื่อมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป”

จุดหักเหที่เป็นความหวังและน่าลุ้นยังอยู่ตรงนี้ อาจไม่ใช่พล็อตที่ตั้งใจไว้แบบในละครก็ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image