ป.ป.ช.จ่อตั้งอนุกรรมการสอบสินบนโรลส์-รอยซ์ และคดีเงินทอน พรุ่งนี้
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีการจ่ายสินบนข้ามชาติของบริษัท โรลส์-รอยซ์ฯ ให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ว่าในส่วนของบริษัท การบินไทย อัยการสูงสุดได้ส่งคำร้องขอข้อมูลจากสำนักงานปราบปรามการทุจริตของอังกฤษ หรือเอสเอฟโอแล้ว แต่ยังไม่ได้รับข้อมูลกลับมา อย่างไรก็ตาม จะรายงานความคืบหน้าการรวบรวมข้อเท็จจริงเรื่องของบริษัท ปตท. เข้าที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ในวันที่ 22 มิถุนายน เพื่อให้ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ใน 3 โครงการ จากทั้งหมด 6 โครงการที่ ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบซึ่งจากพยานหลักฐานนั้น พบว่ามีมูลความผิด ดังนั้น ขึ้นอยู่กับที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ว่าจะมีมติออกมาอย่างไร
นายสรรเสริญกล่าวถึงกรณีกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ส่งมอบสำนวนคดีทุจริตเงินอุดหนุนวัดให้ ป.ป.ช.ดำเนินการชี้มูลความผิด ว่าหากสำนวนใดมีพยานข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจน จะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.พิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงในวันที่ 22 มิถุนายน ทั้งนี้ บางสำนวนที่สามารถตั้งอนุกรรมการได้เลย ไม่จำเป็นต้องสอบพยานใหม่ เว้นแต่เห็นว่ายังขาดข้อมูลในบางประเด็น
นายสรรเสริญกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.จะเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาเข้ามาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้อย่างเต็มที่ เช่น กรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่ามีพยานหลักฐานใหม่ มาแก้ข้อกล่าวหาก็จำเป็นต้องรับฟัง และตรวจสอบว่าพยานหลักฐานใหม่น่าเชื่อถือหรือไม่ หากมีความน่าเชื่อถือ คำตัดสินก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ นอกจาก 12 สำนวนที่ได้รับมาแล้ว ป.ป.ช.ยังมีสำนวนคดีที่อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริงอีกกว่า 60 สำนวน ที่มีลักษณะความผิดเช่นเดียวกัน ซึ่งผู้ที่เข้าข่ายความผิดในระดับบริหารเป็นคนกลุ่มเดียวกัน แต่ระดับปฏิบัติขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่แต่ละท้องที่ ซึ่งไม่สามารถนำสำนวนมารวมสอบได้ เนื่องจากต่างกรรมต่างวาระกัน แต่สามารถดำเนินการสอบสวนไปพร้อมกันได้ และเมื่อส่งฟ้องก็ต้องถูกลงโทษในทุกความผิด
