เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่บริเวณก่อสร้างสถานีสูบน้ำเกียกกาย เขตบางซื่อ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจงานก่อสร้างโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ จากคลองลาดพร้าวถึงแม่น้ำเจ้าพระยา ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 87 ซึ่งก่อนหน้านี้กทม.คาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ติดอุปสรรคการก่อสร้างที่อยู่อาศัยของประชาชนบริเวณคลองลาดพร้าวที่ประสงค์ย้ายออก จึงทำให้ผู้รับเหมาต้องหยุดทำงานชั่วคราว ประกอบการมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี 2555 ให้ขยายเวลาการก่อสร้างออกไปอีก 150 วัน จึงทำให้สัญญาจะสิ้นสุดลงในวันที่ 11 กันยายน 2560 นี้ ซึ่งตนก็ได้กำชับให้ผู้รับเหมาเร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ โดยบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งว่าจะเสร็จให้ได้ภายในเดือนกรกฎาคม และสามารถทำการทดสอบระบบการทำงานของอุโมงค์เสมือนการใช้งานจริงในวันที่ 1 สิงหาคมนี้
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สำหรับการโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อนี้ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและช่วยลดปัญหาน้ำท่วมขังให้แก่พี่น้องประชาชนใน 6 พื้นที่ ได้แก่ เขตดุสิต บางซื่อ พญาไท จตุจักร ดินแดง และห้วยขวาง ครอบคลุมพื้นที่ 56 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) และสามารถรองรับปริมาณน้ำฝนได้ไม่น้อยกว่า 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง โดยอุโมงค์มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 เมตร ความยาว 6.4 กม. และมีกำลังสูบ 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเมื่อเปิดทดสอบระบบภายในเดือนสิงหาคมแล้วก็จะสามารถรองรับกับฝนที่จะตกลงมาในช่วงเดียวกันได้พอดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการนี้ประกอบด้วย อาคารรับน้ำรัชดาภิเษก (บ่อ1) อาคารรับน้ำวิภาวดีรังสิต (บ่อ2) อาคารรับน้ำกำแพงเพชร (บ่อ3) อาคารสถานีสูบน้ำเกียกกาย (บ่อ 4, 5) อาคารทิ้งน้ำวัดแก้วฟ้าจุฬามณี (บ่อ6) และอาคารสำนักงาน 5 ชั้น ซึ่งอาคารสถานีสูบน้ำเกียกกาย บ่อ 4 จะดึงน้ำจากอาคารรับน้ำรัชดาภิเษก วิภาวดีรังสิตและกำแพงเพชร มารวบรวมไว้ และส่งต่อไปสถานีสูบน้ำเกียกกาย บ่อ 5 ซึ่งเป็นบริเวณที่ผู้ว่าฯกทม.ได้ลงพื้นที่สำรวจ หลังจากนั้นจะส่งไปอาคารทิ้งน้ำ เพื่อระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาต่อไป
